“คลัง” เผย สัปดาห์หน้า “สุพัฒนพงษ์ “ หารือค่ายรถยนต์ เตรียมความพร้อมนำเข้าและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

  • ย้ำสูญรายได้ แลกกับการลงทุน การจ้างงานในประเทศ
  • หนุนไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า  จากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ ทั้งภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิตนั้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้และการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยสัปดาห์หน้า นายสุพัฒน์พงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน จะเชิญค่ายรถยนต์มาหารือ เพื่อสอบถามความพร้อมทั้งการนำเข้าและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่อีกครั้ง 

“ก่อนหน้าที่จะสรุปโครงสร้างภาษีใหม่นั้น ภาครัฐ ได้หารือค่ายรถยนต์หลายรอบแล้ว ซึ่งทุกรายให้การตอบรับเป็นอย่างดี  เมื่อทราบอัตราภาษีชัดเจน ก็สามารถจะกำหนดต้นทุนราคาขายได้ ขณะเดียวกันต้องปรับสายการผลิตเพื่อรองรับการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วย  โดยมาตรการภาษีนี้เป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เหมือน 30 ปีที่ผ่านมา ที่ภาครัฐส่งเสริมการผลิตรถยนต์จนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของภูมิภาคเอเชียนี้ในปัจจุบัน”

นายอาคม กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ดังกล่าว ไม่ได้มีผลกระทบต่อฐานะการเงิน และการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ เนื่องจากเป็นมาตรการส่งเสริมก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงาน และการส่งออกในอนาคต ดังนั้นการสูญเสียรายได้ จากการปรับโครงสร้างภาษีนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่จะได้กลับมานั้น เชื่อว่าจะมีมากกว่ามูลค่าภาษีที่สูญเสียไป

นายพชร อนันตศิลป์  อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลฯ ได้ร่างประกาศการลดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าตามที่ครม.อนุมัติเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างตรวจความถูกต้อง และส่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับต่อไป  โดยเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีรายได้ของกรมศุลฯ เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องนำเข้านั้น ส่วนใหญ่จะมีราคาแพง มากกว่า 7 ล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลฯ แต่อย่างใด