คลัง เผย รัฐบาลจัดเก็บรายได้ 11 เดือนต่ำกว่าเป้า 2.9 แสนล้านบาท หลังเจอพิษโควิด-19

  • เศรษฐกิจในภาพรวมหดตัว
  • การผ่อนปรนทางภาษีช่วยประชาชน
  • ฉุดรายได้ 3 กรมภาษีจัดเก็บต่ำกว่าเป้า

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)​ ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.2562 – ส.ค. 2563) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 2.15 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 293,043 ล้านบาท หรือ 12.0 % ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และการดำเนินนโยบายและมาตรการทางภาษีของรัฐบาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ส่งผลให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นไปตามรอบระยะเวลาการชำระภาษีในช่วงสถานการณ์ปกติ โดยเฉพาะมาตรการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนั้น ในการนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ต้องคำนึงถึงผลของมาตรการทางภาษีดังกล่าวเป็นสำคัญ

ส่วนหน่วยงานที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ได้แก่ กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 1.61 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 233,861 ล้านบาท หรือ 12.7% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)​ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการค้าที่หดตัวเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคล จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมีการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากประมาณการกำไรสุทธิในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 (ภ.ง.ด. 51) ออกไปเป็นภายในเดือนก.ย. 2563 และการลดอัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากอัตรา 3% เหลืออัตรา 1.5 %ตั้งแต่เดือนเม.ย. – ก.ย. 2563 และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ส่วนใหญ่เป็นผลจากภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากเงินเดือน (ภ.ง.ด. 1) ขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนกรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 503,882 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 87,890 ล้านบาท หรือ 14.9% โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน และภาษียาสูบ เนื่องจากปริมาณสินค้าที่ชำระภาษีขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 85,983 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 15,717 ล้านบาท หรือ 15.5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้า

อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นและการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ สูงกว่าประมาณการ 16,003 และ 10,645 ล้านบาท หรือ 9.4% และ 6.2% ตามลำดับ