คลัง เตรียมเปิดศูนย์ร้องเรียน-เพิ่มปุ่มทบทวนสิทธิ์ “เราชนะ” รับแจ้งปัญหาติดขัดทุกกรณี

  • สศค.เผยลงทะเบียนรอบใหม่ต้องระบุฐานเงินเดือน
  • ใครได้สิทธิ์รอกดยืนยันในแอป “เป๋าตัง” ได้เลย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรณีที่อาจจะมีผู้มีสิทธิแต่อาจจะไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบ หากมีการตกหล่นสามารถแจ้งมายังกระทรวงการคลังได้ ทั้งนี้ สามารถตรวจเช็คสถานะได้ที่ www.เราชนะ.com ซึ่งถ้าหากไม่ผ่าน จะมีการแจ้งว่าเป็นเพราะอะไร

“เบื้องต้นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแหง่รัฐ หรือ บัตรคนจนจำนวน 13.8 ล้านคน จะเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ คือ กลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาแน่นอน ส่วนที่เหลือเองไปตรวจสอบสิทธิ สำหรับเงินฝากที่ระบุไม่ให้เกิน 500,000 นั้น นับรวมเงินฝากประจำและออมทรัพย์ แต่จะไม่นับสลากออมทรัพย์ต่างๆ”

สำหรับงบที่จะใช้ในการเยียวยาจำนวน 210,000 ล้านบาทนี้ คงไม่สามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 รอบนี้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ถือเป็นการแบ่งเบาภาระ ถ้าจะให้ครอบคลุมต้องใช้มากกว่านี้ เชื่อว่า การจำกัดพื้นที่ และ ความร่วมมือสำคัญมาก เพราะเศรษฐกิจยังเดินอยู่บางภาคธุรกิจอาจระงับชั่วคราว เพราะเราไม่ต้องการให้หยุดเศรษฐกิจทั้งหมด ต้องประคองทั้งสองส่วน เชื่อว่า เราจะชนะได้ ถ้าเราร่วมใจ เราหวังว่า ครั้งนี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ในส่วนกลุ่มที่มีลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ ที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคนแล้ว หากไม่แน่ใจว่าได้รับสิทธิหรือไม่สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่าน www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.2564 เป็นต้นไป โดยกลุ่มที่ไม่ได้รับสิทธิ์และอยากจะร้องเรียน กระทรวงการคลังจะทำปุ่ม “ทบทวนสิทธิ์” ขึ้นมาให้แจ้งข้อมูลหลังจากให้เช็คสิทธิ์ ซึ่งคาดว่าปุ่มนี้จะออกหลังจากเปิดเช็คสิทธิ์ไประยะหนึ่ง

ขณะที่ในส่วนผู้ที่ระบบคัดกรองแล้วว่ามีสิทธิ์ในโครงการเราชนะ จะมีแบนเนอร์ขึ้นมาในแอป “เป๋าตัง”ว่าผ่านการคัดกรอง และให้ยืนยันสิทธิ์อีกครั้งว่ามีคุณสมบัติเป็นไปตามที่รัฐกำหนดไว้หรือไม่ 7 ข้อ ซึ่งเมื่อกดยืนยันแล้ว จะต้องกรอกที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้นก็รอรับเงินโอนผ่านเข้าแอปเป๋าตังได้เลย

“ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มข้อมูลบัตรคนจนหรือไม่เคยเข้าร่วมมาตรการรัฐบาลเลย สามารถมาลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค.2564 เป็นต้นไป ซึ่งขอให้ประชาชนไม่ต้องรีบเพราะถ้าหากเข้าเกณฑ์ก็มีสิทธิ์ได้รับเงิน โดยการลงทะเบียนรอบนี้จะต้องให้ข้อมูลมากกว่าโครงการคนละครึ่ง นอกจากชื่อ-นามสกุล ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประจำตัวประชาชน แล้วจะต้องกรอกเกณฑ์รายได้ด้วย ซึ่งในเว็บจะมีตัวเลือกให้ระบุ”