“คลัง” ส่อเลื่อนเก็บภาษีขายหุ้น เหตุเผชิญวิกฤติซ้ำซ้อน “โควิด-สงครามรัสเซีย-ยูเครน”​

  • “อาคม”​ขอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ
  • จังหวะเวลาที่เหมาะสม
  • ย้ำเศรษบฐกิจไทยต้องโตอย่างมีเสถียรภาพ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงการคลัง มีแนวนโยบายที่จะขยายฐานการจัดเก็บภาษี เพื่อเพิ่มการจัดเก็บรายได้รัฐ ด้วยการจัดเก็บภาษีขายหุ้นในอัตรา 0.11 % ที่ยกเว้นมานานกว่า 30 ปีนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลัง ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม จะเริ่มจัดเก็บภาษีดังกล่าว ว่าช่วงเวลาใดที่จะเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้องเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทย เริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด แต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลด้วย  ถือเป็นวิกฤติซ้อนวิกฤต  ดังนั้นจึงจำเป็นดูสถานการณ์และสภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจก่อน จึงจะกำหนดวันเวลาจัดเก็บภาษีขายหุ้นอีกครั้ง

“การเพิ่มการจัดเก็บรายไดรัฐนั้น มี 2 แนวทาง คือ การขยายฐานการจัดเก็บภาษี และการนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำมาใช้แล้ว ส่วนการขยายฐานการจัดเก็บภาษี ก็ต้องจังหวะเวลาที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจด้วย”

สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจไทยนั้น เครื่องยนต์หลักคือ การส่งออก ที่เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ภาคท่องเที่ยว ก็จะทยอยกลับมาเปิดให้บริการ โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน และปี2566 รัฐบาลประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อธุรกิจท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว เกิดการจ้างงาน คนกลับมามีรายได้เพิ่ม แม้จะยังไม่เท่าเดิมก่อนเกิดโควิด แต่ประชาชนก็จะมีเงินจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ซึ่งก็จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่งให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น