- สั่งธ.ก.ส.ทำรายละเอียดเพิ่มเติมมาเสนอ
- ต้องให้ครอบคลุมเกษตรกรทุกกลุ่ม
- รัฐตั้งงบเยียวยาเกษตรกรไม่เกิน2แสนล้าน
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยหลังการประชุมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ในการหารือเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้เงินช่วยเหลืิอเกษตรกรถึง 30,000 บาทต่อครัวเรือนหรือไม่ แต่แนวทางคือ จะจ่ายเงินสดให้เกษตรกรโดยตรง เหมือนในอดีตที่เคยจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่อง โดยจะนัดหารือผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในเวลา 09.00 น.วันที่ 10 เม.ย.63 ซึ่งถ้าได้ข้อสรุปจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเห็นชอบอีกครั้ง แต่การจ่ายเงินคงต้องรอเงินจากพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่ากฎหมายแล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.นี้ และเริ่มกู้เงินในเดือนพ.ค.63
ส่วนในเบื้องต้นมีตัวเลขเกษตรกรที่จะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งมาจากการตัวเลขเกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ที่กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้อาจจะมีมาตรการอื่น ๆ มาเสริมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เช่น การช่วยเหลือชาวนา เป็นต้น ส่วนในอนาคตหากต้องช่วยเหลือกลุ่มใดเพิ่มเติมก็จะใช้วงเงินจากพ.ร.ก.นี้
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ต้องกลับไปทำรายละเอียด เพื่อนำเสนอเพิ่มเติมในอีก 3 ประเด็น คือ 1.จำนวนครัวเรือนที่จะให้นั้นสรุปเท่าไหร่ จากเบื้องต้นมีตัวเลข 9 ล้านครัวเรือน ซึ่งเป็นตัวเลขจากการลงทะเบียนเกษตรกรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2.จะใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าจ่าย 15,000 บาท เท่ากับอาชีพอิสระ 3 เดือน ต้องใช้งบประมาณถึง 135,000 ล้านบาท หรือถ้าจ่ายสูงกว่านี้งบประมาณจะต้องมากกว่านี้ 3.จ่ายกี่ครั้ง ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง
“ในการจ่ายเงิน ต้องไปดูว่างบประมาณควรจะใช้นั้นเป็นเท่าไหร่ เพราะตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบเยียวยาและงบด้านสาธารณสุขที่กำหนดงบภาพรวมไว้ 600,000 ล้านบาท ถ้าเอาไปให้เกษตรกรมาก จะต้องลดทอนงบในส่วนอีก นอกจากนี้ต้องดูว่างบที่จะให้ต้องไม่ซ้ำซ้อน เช่น เกษตรกรบางคน หรือครอบครัวเกษตรกร ได้รับเงินจากอาชีพอิสระไปแล้วควรได้เงินตรงนี้หรือไม่ เพราะเป็นการจ่ายแบบครัวเรือนไม่ใช่แบบบุคคล ซึ่งจะต้องประเมินและพิจารณาตรงนี้ด้วย”
นายอภิรมย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เกษตรกรที่จะได้รับเงินจะต้องครอบคลุมทุกกลุ่ม เช่น ชาวนา ชาวสวน เลี้ยงสัตว์ ประมง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีบัญชีอยู่กับธ.ก.ส.แล้ว ประมาณ 6-7 ล้านบัญชี ซึ่งในการช่วยเหลือนั้นเป็นการบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการที่ออกมาช่วยเหลือก่อนหน้านี้ เช่น ประกันราคารายได้ เป็นต้น
ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า ในแง่วงเงินเยียวยาเกษตรกรนั้น อาจจะไม่เท่ากับการเยียวยา 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนที่จ่ายให้กับกลุ่มอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยตรง เพราะเกษตรกรไม่ได้เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากยังไม่ถึงช่วงที่เป็นฤดูกาลเพาะปลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลได้ตั้งวงเงินสำหรับเยียวยาภาคเกษตรไว้ไม่เกิน 200,000 ล้านบาท โดยจะจ่ายตามจริงและตามความเหมาะสม ซึ่งวงเงินนี้อาจใช้ไม่เต็มวงเงินดังกล่าวก็เป็นได้
