ครึ่งปีแรก “แบงก์รัฐ”แห่ตั้งสำรองพุ่ง 3 หมื่นล้านบาท รับมือโควิดกันหนี้เสียไหล

  • ออมสินนำ 1.1 หมื่นล้านบาท
  • ธอส.ตามมา 4 พันล้านบาท
  • ธ.ก.ส.กางแผนทั้งปี 3.9 หมื่นล้านบาท

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ได้มีการเร่งตั้งสำรองรองรับความเสี่ยงจากผลกระทบโควิดเพิ่มขึ้นกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท และครึ่งปีหลังยังมีแผนตั้งสำรองเพิ่มต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งฐานะการเงิน ให้สามารถรับมือกับลูกหนี้ที่ผ่อนไม่ไหวและอาจกลายเป็นหนี้เสียในอนาคตได้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในปีนี้ได้มีการตั้งสำรองทั่วไปเพิ่มเติมอีก 11,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งฐานะการเงินแก่ธนาคาร ให้มีความพร้อมนำไปช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบโควิด และอาจประสบปัญหาผ่อนไม่ไหวในอนาคต ซึ่งเป็นการตั้งสำรองเพิ่มอย่างต่อเนื่องจากปลายปีที่ตั้งไป 12,400 ล้านบาท และหลังจากนี้ธนาคารยังมีแผนตั้งสำรองเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้ธนาคารจะเน้นดูแลลูกหนี้และแก้ไขหนี้กับลูกค้ารายเดิมเป็นหลัก ไม่ได้เน้นการเติบโตของสินเชื่อใหม่ โดยที่ผ่านมาได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ที่ประสบปัญหาไปได้แล้วกว่า 6 แสนราย และตั้งเป้าหมายภายในเดือนมิ.ย.64 จะช่วยเหลือได้ไม่ต่ำกว่า 8 แสนราย ขณะที่สัดส่วนหนี้เสียยังทรงตัวแต่คาดว่าไตรมาสสองจะมีลูกหนี้ตกชั้นกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น แต่ธนาคารได้ประเมินไว้แล้วและได้หาแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้โดยตรง รวมถึงตั้งสำรองสร้างความเข้มแข็งควบคู่กัน”

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารได้มีการตั้งสำรองฯ ตามแผนงานประจำปีซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งยังตั้งสำรองส่วนเกินเพื่อรองรับผลกระทบโควิด และมาตรฐานบัญชีใหม่ทีเอฟอาร์เอส9 โดยล่าสุดถึง 30 เม.ย.64 ธนาคารตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มไปแล้ว 4,350 ล้านบาท สะสมรวมเป็น 101,450 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนต่อหนี้เสียที่ 182% ขณะที่เป้าหมายทั้งปีจะตั้งสำรองเพิ่มถึง 8,340 ล้านบาท สะสมเป็น 104,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน 208% ซึ่งถือว่าแข็งแกร่งรองรับความเสี่ยงได้

ด้านนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กล่าวว่า ธนาคารมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ณ 31 มี.ค.64 อยู่ที่ 12,396 ล้านบาท ทำให้มีอัตราส่วนเงินทุนสำรองต่อหนี้เสียเพิ่มเป็น 220% ซึ่งอยู่ในระดับแข็งแกร่งรองรับผลกระทบจากโควิดได้ ขณะที่หนี้เสีย ณ ไตรมาสแรกอยู่ 4.19% คิดเป็นมูลหนี้ 5,625 ล้านบาท

นายวุฒิชัย สุระรัตน์ชัย กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีการบริหารจัดการหนี้เสียอย่างต่อเนื่อง ส่วนครึ่งปีหลังคาดจะไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มเลยเพราะปีที่แล้วตั้งสำรองส่วนเกินไว้มากจึงเพียงพอรองรับผลกระทบจากโควิด

รายงานข่าวจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งว่า ปีนี้ธนาคารมีแผนตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 39,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ธนาคารมีเงินสำรองสะสมในสิ้นปีเพิ่มเป็น 4.1 แสนล้านบาท ส่วนยอดหนี้ปัจจุบันอยู่ที่ 3.85% และคาดว่าถึงสิ้นปีดำเนินการ 31 มี.ค.65 จะเพิ่มเล็กน้อยมาที่ 3.98% ซึ่งอยู่ในระดับที่ธนาคารบริหารจัดการได้

ส่วนธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ยังไม่เปิดเผยข้อมูลหนี้เสียและการตั้งสำรอง