ครัวเรือนกระเป๋าฉีก! มิ.ย.65 มีค่าใช้จ่ายกว่า 1.8 หมื่นบาท

.จ่ายค่าโดยสารสาธารณะ น้ำมันเชื้อเพลิง เกือบ 5 พันบาท

.ส่วนค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าก๊าซหุงต้ม ตามติดเกือบ 4 พันบาท

.ขณะที่เงินเฟ้อมิ.ย.65 พุ่ง 7.66% ทำสถิติสูงสุดรอบ 13 ปีอีกครั้ง

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนมิ.ย.65 ว่า เท่ากับ 107.58 สูงขึ้น 0.90% เมื่อเทียบเดือนพ.ค.65 ชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.64 ที่สูงขึ้น 1.40% เทียบเดือนมี.ค.64 และเมื่อเทียบดัชนีเดือนมิ.ย.65 กับเดือนมิ.ย.64 สูงขึ้นถึง 7.66% แต่ยังต่ำกว่าที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 8% ส่วนอัตราเฉลี่ยช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 65 เพิ่มขึ้น 5.61% เทียบช่วงเดียวกันของปี 64 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออกจากการคำนวณ ดัชนีอยู่ที่ 102.99 เพิ่มขึ้น 0.24% เมื่อเทียบเดือนพ.ค.65 และเพิ่มขึ้น 2.51% เมื่อเทียบเดือนมิ.ย.64 ส่วนเฉลี่ย 6 เดือนเพิ่มขึ้น 1.85%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ยังคงมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานที่สูงขึ้น 39.97% จากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม ค่ากระแสไฟฟ้า ส่วนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 6.42% จากการเพิ่มขึ้นของราคาเนื้อสุกร ไก่สด ไข่ไก่ เครื่องประกอบอาหาร ที่ได้รับผลกระทบจากพลังงานที่เป็นต้นทุนแฝงในกระบวนการผลิต โลจิสติกส์ และราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ราคาสูงขึ้น เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ยาสีฟัน บุหรี่ เบียร์ สุรา และค่าโดยสารสาธารณะ

สำหรับเงินเฟ้อไตรมาส 3 ยังมีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 6.46% แต่จะเป็นอัตราเท่าใด ยังประเมินไม่ได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่กระทบเงินเฟ้อ ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ, ราคาน้ำมัน, ผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยังมีอยู่, ความขัดแย้งระหว่างประเทศ, ความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล, การส่งออกและการท่องเที่ยวที่ขยายตัว และมีผลต่อกำลังซื้อ, ค่าเงินบาทอ่อนค่า ฯลฯ ทำให้คาดการณ์ได้ลำบาก

“จนถึงขณะนี้ สนค.ยังคงยืนยันเป้าหมายเงินเฟ้อของไทยทั้งปี 65 ไว้ที่ขยายตัว 4-5% โดยมีค่ากลางที่ 4.5% สำหรับการหยุดยั้งเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ตามหลักการ ก็ถูกต้อง แต่เงินเฟ้อของไทยปัจจุบัน เกิดจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบ ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ราคาสินค่าเพิ่มขึ้น ไม่ได้เกิดจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น การปรับขึ้นดอกเบี้ย ต้องพิจารณาว่าจะเป็นบวกหรือลบมากน้อยแค่ไหน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.65 ที่เพิ่มขึ้น 7.66% เป็นอัตราสูงสุดในรอบปีนี้ และทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปีอีกครั้ง (นับตั้งแต่เดือนก.ย.51 ที่ขยายตัว 6.0% เพราะขณะนั้นเป็นช่วงสงครามอิรัก และราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศปรับตัวขึ้นไปถึงลิตรละ 44.24 บาท) หลังจากทำสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปีมาตั้งแต่เดือนก.พ.65 ที่เพิ่มขึ้น 5.28%, เดือนมี.ค.65 เพิ่ม 5.73%, เดือนเม.ย.65 ชะลอตัวลง แต่ยังเพิ่ม 4.65% และเดือนพ.ค.65 กับมาเพิ่ม 7.1% สูงสุดในรอบ 13 ปีอีกครั้ง

ทั้งนี้ จากการที่สนค.สำรวจค่าใช้จ่ายครัวเรือนของประชาชนเป็นรายเดือน พบว่า ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกเดือน ล่าสุด เดือนมิ.ย.65 สูงถึง 18,088 บาท สูงสุดในรอบปีครึ่ง จากตั้งแต่เดือนม.ค.64 ถึงเดือนพ.ค.65 ที่ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เดือนละ 16,600-17,900 บาท โดยเดือนมิ.ย.65 ครัวเรือนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าโดยสารสาธารณะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบริการโทรศัพท์มือถือสูงสุดที่ 4,477 บาท ตามด้วยค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้ม เครื่องใช้ในบ้าน 3,955 บาท, ค่าอาหารสด เนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ สัตว์น้ำ 1,752 บาท, อาหารบริโภคในบ้าน ดีลิเวอรี่ 1,585 บาท, อาหารบริโภคนอกบ้าน ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ฟาสต์ฟู้ด 1,214 บาท, ค่าแพทย์ ยา บริการส่วนบุคคล 967 บาท, ผักและผลไม้ 918 บาท เป็นต้น