ครม.ไฟเขียวมอบดาบให้สำนักงบประมาณ

  • สำนักงบฯ เล็งโอนงบข้ามส่วนราชการ
  • คลอดระเบียบใหม่ 3 ฉบับโอนเงินข้ามห้วย
  • ”เดชาภิวัฒน์” ยันมีผลทันทีภายใน 1 สัปดาห์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการและงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ.ศ. …. และร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณพ.ศ. …. เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารเงินงบประ มาณ โดยเฉพาะงบบุคลากร จึงได้สั่งการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) ไปพิจารณาในแผนการบรรจุข้าราชการประจำปีใหม่ เร่งศึกษาและรายงานแผนดังกล่าว โดยอาจจะต้องไปพิจารณาเกลี่ยอัตรากำลังที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ สำหรับการบรรจุข้าราชการใหม่ หรือเป็นลูกจ้างชั่วคราวให้สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงาน และการเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government)

นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ครม.เห็นชอบเรื่องการโอนย้ายเงินงบประ มาณตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิธีการงบประมาณพ.ศ.2561 โดยสำนักงบประมาณจะออกร่างระเบียบทั้ง หมด 3 เรื่องประกอบด้วย 1. ร่างระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ 2.ร่างงบประมาณราย จ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณพ.ศ. …. และ3.ร่างระเบียบการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณพ.ศ. …. ซึ่งคาดว่า สำนักงบประมาณจะใช้ระยะเวลาในการประกาศร่างฯ ดังกล่าวได้ภายใน 1 สัปดาห์

นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวว่า ร่างระเบียบทั้ง 3 เรื่องดังกล่าว สำนักงบประมาณเสนอให้รัฐบาลพิจารณา เพื่อเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา การใช้เงินงบประมาณในแต่ละปี ไม่สามารถใช้ได้หมดตามกรอบ หรือวงเงิน ที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตกลงกับรัฐสภา ดังนั้น ระเบียบดังกล่าว จะทำให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ใช้เงินไม่หมด หรือใช้เงินไม่ได้ตามแผนงานดังกล่าว สำนักงบประมาณสามารถเสนอให้รัฐบาลโอนเงินไปยังหน่วยงานอื่นได้ เนื่องจากอดีตที่ผ่านมา งบประมาณสามารถเบิกจ่ายได้เพียง 80% ไม่ถึง 90% ของวงเงินงบประมาณ ขณะที่ งบลงทุนเบิกจ่ายได้ไม่ถึง 80%

“เราคาดว่า หากร่างระเบียบดังกล่าว มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เร่งรัดเบิกจ่ายงบ ประมาณได้เร็วขึ้น เพราะที่ผ่านมา การตั้งวงเงินงบประมาณจะเป็นโครงการที่สามารถดำเนินการได้ทัน ในปีงบ ประมาณนั้นๆ แต่ในช่วงระหว่างปี โครงการอาจมีปัญหา เช่น ไม่สามารถเวนคืนที่ดินได้หรือถูกประชาชนร้องเรียน เป็นต้น ทำให้โครงการล่าช้าหรือเลื่อนออกไป ทำให้งบประมาณที่อนุมัติจะถูกตัดทิ้งไป ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้งบประมาณใช้ไม่หมด”

ส่วนเรื่องงบบุคคลกรก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน เพราะหน่วยงานบางแห่งของอัตรากำลัง และมีการบรรจุกำลังพลมากเกินกว่าวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบเนื่องจากกำลังพลพบขาดแคลน ขณะที่ส่วนราชการบางแห่งขอบบุคคลกรแต่ไม่ได้เปิดสอบ ทำให้งบประมาณบางส่วนราชการมีงบเหลือ ดังนั้น ร่างระเบียบใหม่ จึงเปิดโอกาสให้สำนักงบประมาณสามารถดึงงบบุคคลกรจากส่วนราชการที่มีเงินเหลือไปยังหน่วยงานอื่นได้

สำหรับร่างระเบียบทั้ง 3 เรื่องดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ 1.กำหนดให้งบประมาณรายจ่ายที่จะโอนไปให้หน่วยรับงบประมาณอื่น ต้องเป็นงบประมาณรายจ่ายที่หน่วยรับงบประมาณไม่สามารถใช้จ่าย หรือก่อหนี้ผูกพันให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงงบประมาณเหลือจ่าย 2.การโอนงบประมาณราย จ่าย โดยกำหนดให้ผู้มีอำนาจคือ ครม.มอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการจัดทำงบประมาณบูรณาการเป็นผู้มีอำนาจอนุมัติหลักการในการโอนงบประมาณซึ่งหากจะโอนงบประมาณราจ่ายได้ สำนักงบประมาณจะต้องเสนอ ความเห็นประกอบการพิจารณาเพื่อสอดคล้องกับแผนงานและการใช้จ่ายงบประมาณ 3.การโอนงบประมาณราย จ่ายบุคลากร จะเริ่มต้นพิจารณาก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3 หรือประมาณเดือนพ.ค. และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีการแก้ไข “ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ” เป็น “หน่วยรับงบประมาณ” เป็นต้น.

///////////