ครม.เศรษฐกิจ สั่งตั้งคณะกรรมการ ร่วม 3 กระทรวง หาข้อมูลเจรจาสหรัฐฯ

  • หาข้อมูลให้ทบทวนการตัดสิทธิ์จีเอสพีสินค้าไทย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(29 ต.ค.2562)ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม. เศรษฐกิจ)ซึ่งนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมด่วน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.เศรษฐกิจได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงาน 3กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ หาช่องทางยื่นเรื่องให้สหรัฐฯทบทวนในเรื่องนี้ ซึ่งในเบื้องต้นหากมีการตัดสิทธิ์ทางภาษี จะส่งผลให้สินค้าที่ส่งไปขายที่สหรัฐฯมีภาระภาษีประมาณ 1,500-1,800ล้านบาท แต่จะมีผลเดือนเม.ย. 2563 ดังนั้น เรายังมีช่องทางที่จะขอให้สหรัฐฯทบทวนและก่อนหน้านี้ได้แจ้งให้ทูตพาณิชย์ประสานกับทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซีหารือกับสำนักงานคณะผู้แทนการค้าสหรัฐอะมริกา(ยูเอสทีอาร์)ถึงรายละเอียดต่างๆคาดว่าจะได้รับคำตอบกลับมาว่าจะต้องทำอย่างไรในเร็วๆนี้

“เราต้องเจรจาให้เข้าใจว่าบางเรื่องเราทำได้หรือไม่เช่นการเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวตั้งสหภาพแรงงานในประเทศไทยทางกระทรวงแรงงานจะไปชี้แจงว่าสามารถทำได้หรือไม่รวมถึงข้อเสนออื่นที่แต่ละกระทรวงหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำความเข้าใจว่าสิ่งใดทำได้หรือเหมาะไม่เหมาะสมอย่างไร”

ส่วนทางออกระยะยาว ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมหารือภาคเอกชน สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมผู้ส่งสินค้าออกทางเรือ เตรียมการบุกตลาดต่างๆทั่วโลกเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกโดย เร่งรัดบุกตลาดใน 10 กลุ่มตลาดใหญ่ ที่จะมีทั้งสหรัฐฯจีน อินเดียแอฟริกาใต้ เอเชียใต้ กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ญี่ปุ่นเกาหลี ตุรกี เยอรมัน สหภาพยุโรป รวมถึงประเทศอังกฤษ โดยแผนงานที่เร็วสุดจะนำทีมเอกชนไปเปิดตลาดที่ตุรกีและประเทศเยอรมัน จากนั้นจะไปตะวันออกกลาง สำหรับประเทศที่มีประชากรมากเช่นอินเดีย จีน สหรัฐฯจะลงไปรายมณฑลหรือรายรัฐโดยเฉพาะสหรัฐฯจะเจาะลึกไปในแต่ละรัฐที่ต้องการสินค้าแตกต่างกันซึ่งมีศักยภาพสามารถนำเข้าสินค้าของไทยได้แม้ว่าเราจะไม่ได้รับสิทธิ์จีเอสพี