ครม.เคาะมาตรการทางการคลังให้บริษัทที่สนับสนุนพัฒนาแรงงานขั้นสูงนำไปหักค่าใช้จ่าย

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบการพัฒนาศักยภาพคน ตามมติ ครม.เศรษฐกิจ แต่ต้องเสนอให้ ครม.อนุมัติอัตราภาษีตามมาตรการทางการคลัง เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาเสริมบทบาทด้านการพัฒนาทักษะของแรงงาน โดยเฉพาะในหลักสูตรการอบรมทักษะขั้นสูง (Advanced Technology) ที่เป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมและเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการปรับตัวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบริหารทรัพยากรมนุษย์

โดยอนุมัติให้สิทธิประโยชน์สำหรับพัฒนาทักษะของพนักงานด้าน วิทยาศาสตร์ เทศโนโลยี และวิศวกรรมขั้นสูง (STEM) โดยการให้สิทธิประโยชน์แก่สถาบันการศึกษา สถาบันฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือผู้ประกอบการฝึกอบรมเอง โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นจาก 2 เท่า เป็น 2.5เท่าไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)หรือไม่ก็ได้รับสิทธิ์นี้ แต่หลักสูตรดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หรือสำนักงาคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)


ขณะเดียวกันเห็นชอบขยายการให้สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน เช่น การให้สิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบการที่ได้ลงทุนหรือมีค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรมที่เข้าข่ายเป็นการอบรมทักษะขั้นสูงโดยให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็น 2 เท่า ของเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ให้สิทธิประโยชน์สำหรับการจ้างงานบุคลากรทักษะสูงโดยเฉพาะในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวิศวกรรมขั้นสูง เช่น สนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่จ้างงานใหม่ที่เป็นบุคลากรทักษะสูงโดยฉพาะในสาขาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ให้สามารถนำค่าจ้างเงินเดือนมา หักค่าใช้จ่ายได้ 1.5เท่า

ตลอดจนจะพิจารณากำหนดแนวทางและรูปแบบการให้เงินสนับสนุนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในกรณีที่มีการจัดตั้งสถาบันการศึกษศักยภาพสูงจากต่างประเทศที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพัฒการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ (คพอต.) เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาศักยภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาจัดการศึกษาที่สร้างผลในวงกว้างต่อการสร้างบุคลากรทักษะสูงของไทย

นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบการสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน โดยให้กำหนดมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนดันระบบอัตโนมัติ (Automation) เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนระบบอัตโนมัติมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีได้ 2 เท่า จากเดิม 1.5 เท่าด้วย