ครม.มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิวไปอีก 1 เดือน

  • ครม.มีมติขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว ไปอีก 1 เดือน
  • ม่เลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์เดือน พ.ค. 63
  • ยันจะดูแลประชาชนให้ดีสุด ขอผู้ประกอบการใจเย็น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (28 ม.ย.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้ต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการประกาศใช้เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ออกไปอีก 1 เดือน รวมถึงยังคงให้งดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด และการเดินทางเข้าออกนอกราชอาณาจักร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังให้คงวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพฤษภาคม 2563 ตามปฏิทิน แต่ต้องมีมาตรการการตรวจคัดกรองและป้องกันอย่างเข้มงวด จากที่ก่อนหน้านี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เสนอให้พิจารณาเลื่อนวันหยุด  

ส่วนการผ่อนคลายมาตรการเพื่อให้สถานประกอบการบางประเภทกลับมาให้บริการได้นั้น นายกรัฐมนตตรี กล่าวว่า ครม.ได้ให้กรอบพิจารณาภาพรวม โดยจะมีคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ พิจารณาศึกษารายละเอียด ซึ่งจะมีความชัดเจนและประกาศภายในสัปดาห์นี้ แต่เบื้องต้นแบ่งการผ่อนคลายไว้ 4 ระยะ แบ่งเป็นช่วง 14 วัน ตามระดับตามกลุ่มที่ ศบค.กำหนดไว้คือ กลุ่มขาว-เขียว-เหลือง-แดง เพื่อประเมินผลผ่อนคลายมาตรการ

“ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการ ส่วนท้องถิ่นและท้องที่ตระหนักและให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะหากเปิดให้สถานประกอบการเปิดบริการแล้ว  จะต้องมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยจากการแพร่ระบาด หรือให้ทุกสถานประกอบการเป็นพื้นที่สถานประกอบการปลอดโควิด-19 หรือโควิดฟรี” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการ เห็นใจรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหารอบด้าน ทั้งความเดือดร้อนของประชาชน เศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญที่สุด คือ มาตรการทางสาธารณะสุข พร้อมย้ำเข้าใจปัญหาของทุกคนจึงขอให้ทุกคนอดทนในระยะนี้ รัฐบาลจะดูและประชาชนอย่างดีที่สุด ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มและว่า “หากประชาชนเจ็บ ผมก็เจ็บด้วย” 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมวันนี้ได้หารือมาตรการเยียวยาเกษตกร แรงงาน และกลุ่มเปราะบาง และยืนยันว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณของประเทศทั้งงบปกติ  งบกลาง และงบจากการกู้เงินอย่างเหมาะสม ทันต่อการดูแลประชาชนทุกคน  ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนจาก 3 ล้านคน เพิ่มเป็น 10 ล้านคน และจะทยอยดำเนินการช่วยเหลือต่อไป ซึ่งรัฐบาลก็จะเร่งให้ร่าง พ.ร.ก.เงินกู้ ให้ทันกับการเยียวยา