ครม.ทุ่ม6.5พันล้านอุ้มคนจนมีบ้าน

  • ผุดบ้านมั่นคง 6.9แสนครัวเรือน
  • เพิ่มงบก่อสร้างสาธารณูปโภค
  • พม.ยันออมสิน-ธอส. ปล่อยกู้

ครม.ไฟเขียวเพิ่มงบลงทุนทางด้านสาธารณูปโภค เช่น การก่อสร้างถนน การสร้างท่อระบายน้ำให้แก่โครงการบ้านมั่นคงอีกหลังละ 9,800 บาทต่อครัวเรือน รวมเป็น 89,800 บาทต่อครัว ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาที่อาศัย 20 ปีของรัฐบาล ใช้งบประมาณ 61,793 ล้านบาท สามารถทำให้ประชาชนมีบ้านได้ 690,000 ครัวเรือน

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีเห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ (พ.ม.) เสนอ โดยเพิ่มกรอบวงเงินสนับสนุนโครง การบ้านมั่นคงจากเดิม 80,000 บาท/ครัวเรือน เพิ่มขึ้น 9,800 บาท/ครัวเรือ รวมเป็น 89,800 บาท/ครัวเรือน โดยมีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ2563 เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางด้านการก่อสร้างและการพัฒนาปรับปรุงชุมชนเช่น การถมดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย สร้างถนนในชุมชน ท่อระบายน้ำ มีราคาเพิ่มขึ้นทั้งพัสดุและค่าจ้างแรงงาน

การขอปรับงบอุดหนุนและเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับงบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น จะสอดคล้องกับโครงการภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560–2579) ซึ่งเป็นแผนต่อเนื่องจากโครงการบ้านมั่นคงที่รัฐบาลได้เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2547 โดยงบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ตามแผน 20 ปี ทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้นจากเดิม 55,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 61,793.342 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6,593.342 ล้านบาท คิดเป็น 11.94% สามารถทำให้ประชาชนมีบ้านได้ 690,000 ครัวเรือน

ทั้งนี้โครงการบ้านมั่นคงเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2547 เพื่อช่วยประชาชนที่มีรายได้น้อย มีที่อยู่อาศัยอย่างมั่น คง เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนเมืองและชนบทแออัดโดยมีการลงทุนด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการและ สิ่งแวดล้อมที่ดี มีรูปแบบสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความสามารถในการใช้จ่ายของคนในชุมชนและเพื่อพัฒนาศักย ภาพของชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถวางแผนจัดการที่อยู่อาศัยร่วมกันได้

โดยโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการ 2 ส่วนได้แก่1.งบประมาณพัฒนาสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัยได้แก่ การถมดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย สร้างถนนในชุมชน ท่อระบายน้ำ เป็นต้น การพัฒนาปรับปรุงที่อยู่อาศัย การบริหารจัดการในชุมชนและสนับสนุนการพัฒนาและดำเนินโครงการ และ2.สินเชื่อในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของชุมชน โดยมีธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สนับสนุนทางด้านสินเชื่อ

ซึ่งในช่วงปี 2553–2560 พ.ม.รายงานว่า งบประมาณในส่วนพัฒนาสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นจริงไม่เพียงพอ เ,นื่องจากราคาการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างที่ผ่านมาในปี 2553 – 2561 มีราคาสูงขึ้น จึงขอปรับแนวทางการอุดหนุนและของบสนับสนุนค่าใช้จ่ายทางด้านดังกล่าวเพิ่มเติม.