- จับมือเอกชน ออกมาตรการความปลอดภัย
- อำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมบูรณาการด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 “ร่วมใจ CHECKคน CHECKรถ CHECKความพร้อม ก่อนออกเดินทาง” บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ และภาคเอกชน ดำเนินการตามมาตรการด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ประกอบด้วย กิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รณรงค์การตรวจความพร้อมของรถก่อนออกเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ กิจกรรม Checking Point เป็นการตรวจสอบรถและพนักงานขับรถอย่างเข้มข้นตลอดการเดินทางและกิจกรรมตั้งจุดบูรณาการร่วม กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โครงการ“อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน” ตั้งจุดบริการทั่วไทย ตลอดเทศกาลปีใหม่
นายศักดิ์สยามกล่าวว่าด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนนั้นได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการมาตรการCheckคนCheckรถChecking Pointการตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถอย่างเข้มข้นเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้พี่น้องประชาชนและสำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนโดยรณรงค์ให้ตรวจสภาพรถก่อนการเดินทาง
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและภาคเอกชนจัดกิจกรรม“ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย”ระหว่างวันที่1 – 31ธันวาคม2562ให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก่อนเดินทางจำนวน20รายการโดยไม่คิดค่าบริการอาทิการตรวจระบบเบรกสภาพยางอุปกรณ์ปัดน้ำฝนระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่องท่อยางหม้อน้ำและรอยรั่วการทำงานของไฟส่องสว่าง/ไฟสัญญาณต่างๆณสถานบริการที่มีป้ายประชาสัมพันธ์“ตรวจรถฟรีขับขี่ปลอดภัย”รวมกว่า31องค์กรจุดให้บริการกว่า2,300แห่งทั่วประเทศ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ในด้านความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ให้ดำเนินการตรวจสอบรถโดยสารและพนักงานขับรถ ณ จุด Checking Point อย่างต่อเนื่อง ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะตลอดเส้นทาง ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารถโดยสารสาธารณะมีความพร้อมในการให้บริการ การเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะมีความปลอดภัย สำหรับการตรวจสภาพความพร้อมของรถ อาทิ ตัวถังรถต้องมั่นคงแข็งแรง, ประตูทางขึ้น–ลงเปิดปิดได้ตามปกติ และประตู/ทางออกฉุกเฉินเปิดได้จากด้านใน, ระบบไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต่างๆ และแตร ทำงานปกติ, ที่นั่งผู้โดยสารยึดติดกับตัวถังมั่นคงแข็งแรง ไม่ชำรุด, มีเข็มขัดนิรภัยและใช้งานได้ทุกที่นั่ง, มีค้อนทุบกระจก และถังดับเพลิงตามจำนวนและตำแหน่งที่กำหนด, ระบบ GPS Tracking พร้อมใช้งาน, ยางรถไม่มีรอยฉีกขาด บวม นูน, กระจกกันลมด้านหน้าและด้านหลังไม่แตกร้าวจนอาจก่อให้เกิดอันตรายรวมถึงตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในขณะปฏิบัติหน้าที่ อาทิ ตรวจการมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง, ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย (ความอ่อนเพลีย), ตรวจสมุดประจำรถ, ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ, ตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ หากพบการกระทำผิดที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงให้เปลี่ยนรถและพ่นห้ามใช้หรือเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถทันที
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ กรมการขนส่งทางบก โดยกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) นำรายได้ส่วนหนึ่งจากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถเลขสวยทั่วประเทศสนับสนุนงบประมาณให้ตั้งจุดบูรณาการร่วม กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โครงการ “อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน” ตั้งจุดบริการทั่วไทย จำนวน 259 แห่ง บริเวณถนนสายหลักที่มีการจราจรหนาแน่น สถานีบริการน้ำมัน หรือจุดให้บริการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้บริการตรวจสภาพรถเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัย ให้ความช่วยเหลือผู้เดินทางกรณีฉุกเฉิน บริการรถยก (บางพื้นที่) บริการนวดผ่อนคลาย บริการผ้าเย็น น้ำดื่ม ข้อมูลเส้นทางและแหล่งท่องเที่ยว รายชื่ออู่รถที่เปิดให้บริการ เป็นต้น ซึ่งเป็นการให้บริการฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า นอกเหนือจากมาตรการข้างต้น กรมการขนส่งทางบกยังเข้มงวดเฝ้าระวัง การใช้ความเร็วของรถโดยสารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยจัดหน่วยเคลื่อนที่ตรวจจับความเร็วในเส้นทางเข้า–ออกกรุงเทพฯ เช่น ถนนพระรามสอง ถนนสายเอเชีย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ติดตามการเดินรถผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งดำเนินการตรวจสอบรถและควบคุมกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับการใช้ความเร็วในการขับรถจำนวนชั่วโมงในการขับรถ การใช้ใบอนุญาตขับรถให้ถูกต้องตามประเภท รวมถึงกำชับในการปฏิบัติหน้าที่ขับรถ“แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” พร้อมเชิญชวนประชาชนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7- 8 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เมื่อมีอาการเหนื่อยล้าระหว่างการเดินทางควรหยุดพักในจุดที่ปลอดภัยหรือจุดบริการที่ภาครัฐและเอกชนได้จัดเตรียมไว้ให้ อย่างน้อยทุก 2-3 ชั่วโมง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยและมีความสุขในเทศกาลปีใหม่