คมนาคมยกระดับรักษาความปลอดภัยระบบขนส่งขั้นสูงสุดป้องระเบิดป่วนกรุง

  • “ศักดิ์สยาม”สั่งปรับระดับรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด
  • พร้อมเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง-ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
  • เข้าพื้นที่แก้ไขเร่งด่วนสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุด ว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด ในพื้นที่การให้บริการทุกระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศ เนื่องจากมีประชาชนใช้บริการเดินทางจำนวนมากทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑล

ส่วนมาตรการดูแลและรักษาความปลอดภัยนั้นได้รับรายงานว่าทุกหน่วยงานดำเนินการอยู่แล้ว แต่ขอให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ทั้งนี้หากเกิดเหตุการณ์สำคัญให้เข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเร่งดวน และรายงานให้ตนทราบทันที อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และเท่าที่ได้รับข้อมูลทราบว่าสถานการณ์ยังปกติ จึงยังไม่มีการประกาศพื้นที่ควบคุมเป็นพิเศษ

นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม กล่าวว่า ตนได้ลงนามในหนังสือถึงหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดความรับผิดชอบ 7 หน่วยงาน เรื่องกำชับเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวัง และการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงาน เนื่องจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานให้บริการประชาชน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงขอให้กำชับเพิ่มความเข้มงวดการเฝ้าระวัง และการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงาน รวมถึงการจัดตั้งศูนย์การเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ทั้งก่อนเกิดเหตุระหว่างเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ โดยให้มีการกำหนดตัวผู้รับผิดชอบ หมายเลขโทรศัพท์ และผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ทั้งนี้เกิดหากเหตุการณ์ให้ผู้รับผิดชอบรายงานสถานการณ์ผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเองที่หมายเลข 08-1642-5942 ได้ทันที

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยกรมเจ้าท่าได้ออกคำสั่งกำหนดมาตรการเรื่องให้เข้มงวดกวดขัน การตรวจตรา และระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยแล้ว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้ 1. ให้เจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ พร้อมเรือยนต์เจ้าท่า ออกตรวจตราในพื้นที่รับผิดชอบและให้สังเกตบุคคลต้องสงสัยที่อาจจะนำสิ่งของบรรจุในหีบห่อ กระเป๋าหรือกล่องมาวางทิ้งไว้บริเวณท่าเรือหรือภาคในตัวเรือ 2. พนักงานขนส่งที่ปฏิบัติงานประจำท่าเรือ เพิ่มความเข้มงวด กวดขัน ในการอำนวยความสะดวกบริเวณท่าเรือ และหากพบบุคคลที่มีพฤติกรรมสงสัย ไม่น่าไว้วางใจ หรือมีสิ่งของ กระเป๋า หรือกล่องต้องสงสัยมาวางทิ้งไว้บริเวณท่าเรือหรือภายในตัวเรือ เพื่อก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับประชาชน

3. ให้เจ้าหน้าที่ที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการโทรทัศน์วงจรปิด(ซีซีทีวี) เพิ่มการเฝ้าระวัง ทั้งในส่วนของแม่น้ำเจ้าพระและคลองแสนแสบ พร้อมทั้งประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4. ให้ผู้ประกอบการเดินเรือกำชับ ผู้ควบคุมเรือ พนักงานเก็บเงิน กะลาสีเรือ หรือผู้ทำการในเรือคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้โดยสาร และ5.หากเห็นว่าผู้โดยสารมีพฤติกรรมต้องสงสัย ไม่น่าไว้วางใจ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้อง ที่ หรือเกตุด่วนเหตุร้าย 191 ตำรวจน้ำ 1196 หรือศูนย์ปลอดภัยทางน้ำ กรมเจ้าท่า สายด่วน 11 99 ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ให้ปฏิบัติการตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นอกจากนั้นในส่วนของการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) ได้ออกมาตรการเฝ้าระวังการก่อวินาศกรรมและการลอบวางระเบิดสถานที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ดังนี้ 1.ปรับเพิ่มมาตรฐานการดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารที่ทำการสำนักงาน โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแลทั้งอาคาร และพื้นที่โดยรอบอาคารสำนักงาน รวมถึงการกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้เพิ่มความระมัดระวังในขณะปฏิบัติหน้าที่ 2.เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยและเข้มงวดตรวจตราในพื้นทีเพิ่มขึ้น หากพบสิ่งผิดปกติ หรือมีเหตุก่อวินาศกรรมหรือลอบวางระเบิดเกิดขึ้น ให้รายงานผู้บังคับบัญชาชั้นต้น เพื่อรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงทราบทันที