คมนาคมมาแรงโยกย้าย 3 ตำแหน่งหลักเด้งอธิบดีทางหลวงชนบท เข้ากรุผู้ตรวจ โยก”อภิรัฐ”จาก ทย.นั่งแท่นอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ดันผู้ตรวจ “ปริญญา”ขึ้นคุมกรมท่าอากาศยาน

คมนาคมมาแรงโยกย้าย 3 ตำแหน่งหลักเด้งอธิบดีทางหลวงชนบทเข้ากรุผู้ตรวจ โยก”อภิรัฐ”จาก ทย.นั่งแท่นอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ดันผู้ตรวจ “ปริญญา”ขึ้นคุมกรมท่าอากาศยาน”ศักดิ์สยาม”ย้ำ!โยกย้ายเป็นไปเพื่อความเหมาะสม วงในชี้!ปูนบำเหน็จ”อภิรัฐ”จากทำภาระกิจโอนย้ายสนามบินภูมิภาคเข้าเป้า

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติอนุมัติ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงคมนาคม) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง โดยย้ายสับเปลี่ยนหมุนเวียน จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1. นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทางหลวงชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง 2. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมท่าอากาศยาน ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทางหลวงชนบท และ3. นายปริญญา แสงสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมท่าอากาศยาน ทั้งนี้การแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวยืนยันว่าเป็นไปด้วยความเหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ต้องบอกว่าถือเป็นลูกรักของนายศักดิ์สยาม เนื่องจากมีสายสัมพันธ์กับบ้านบุรีรัมย์ และยังเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบ นั่งตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวงชนบท และจะเกษียณอายุราชการในปี 65 ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่ง ก็นำนโยบายของ รมว.คมนาคม มาสู่การปฎิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องการนำยางมาแปรรูปทำแบริเออร์ยางครอบคอนกรีต และโครงการติดตั้งเสาหลักนำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทาง เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมถึงเดินหน้าโครงการใช้ความเร็วของรถไม่เกิน 120 กม.ต่อชั่วโมงบนถนนทางหลวงชนบท ซึ่งทั้ง2โครงการหลักได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และการโยกย้ายครั้งนี้ นายปฐม ก็ไม่ทราบมาก่อนล่วงหน้า และคาดว่าสาเหตุที่ถูกโยกย้ายน่าจะมีจากการดำเนินการตามนโยบาย การบังคับใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กมต่อ ชม. ทาง ทช. ทำได้ไม่ตามเป้าหมาย

ส่วนการแต่งตั้งโยกย้าย นายอภิรัฐ จากตำแหน่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน มาดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นั้น ตามอายุราชการจะเกษียณในปี 67 และต้องบอกว่า นายอภิรัฐ ถือว่าใกล้ชิดกับบ้านบุรีรัมย์เป็นอย่างมาก เพราะก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 3 สกลนคร หลังจากนั้นก็เข้ามาดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เมื่อปี 63 และมาปลายปี 63 ก็มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน

ซึ่งเป้าหมายหลักให้มาดำเนินการพัฒนาสนามบินทั่วประเทศ ขณะเดียวกันเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การโอนย้ายสนามบินในสังกัดกรมท่าอากาศยาน 3 สนามบิน ประกอบด้วยสนามบินอุดร สนามบินกระบี่ และ สนามบินบุรีรัมย์ มาอยู่ในความรับผิดชอบ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) ซึ่งนายอภิรัฐ ก็สามารถดำเนินการได้ข้อสรุปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ที่จะมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จในต้นปี65 จากที่ก่อนหน้านี้นโยบายดังกล่าวได้รับการคัดค้านจากคน ทย. เนื่องจากสนามบินที่จะรับโอนเป็นสนามบินที่สร้างรายได้ทำกำไร

ส่วนนายปริญญานั้น จากเดิมมีกระแสข่าวว่า จะได้ไปรับตำแหน่ง อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) แทนคนเก่าที่จะเกียณอายุราชการ แต่กลับกลายเป็นว่า ได้รับการผลักดันจากนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ให้มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน แทนให้เข้ามาสานงานต่อเรื่องการขยายขีดความสามารถสนามบินภูมิภาคทั่วไทยทั้ง 29 สนามบิน