คมนาคมพร้อมเกิน100%อำนวยความสะดวกประชาชาชนเดินทาง “บก-น้ำ-ราง-อากาศ” ช่วงวันหยุดยาวแบบเต็มพิกัด

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2563 เป็นวันหยุดราชการชดเชยวันสงกรานต์ ประจำปี 2563 ประกอบกับวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทำให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่องรวม 4 วัน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กระทรวงคมนาคม จึงได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดบูรณาการการทำงานร่วมกัน และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางทั้งรถส่วนบุคคลและด้วยระบบการขนส่งสาธารณะ ดังนี้ ด้านการเดินทางทางถนน กรมการขนส่งทางบก ได้ขอความร่วมมือสมาคมขนส่งสินค้า สมาคมรถบรรทุก และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกไม่ประจำทาง และรถบรรทุกส่วนบุคคลทั่วประเทศ หลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 24-28 กรกฎาคม 2563 เพื่อบรรเทาปัญหาในด้านการจราจรและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

นอกจากนี้ กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะเปิดช่องผ่านทาง ณ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางบนถนน Motorway และทางด่วนในทุกช่องทาง เพื่อบรรเทาการจราจรติดขัด และเร่งระบายรถที่ติดสะสมบริเวณหน้าด่าน พร้อมทั้งมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์อย่างชัดเจน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการคืนพื้นผิวจราจร หยุดงานก่อสร้าง เพื่อความสะดวกในการใช้เส้นทาง

ทั้งนี้รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกประชาชนและลดภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางด้วยการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 (กรุงเทพฯ – ชลบุรี – พัทยา) และหมายเลข 9 (บางปะอิน – บางพลี) ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี และทางพิเศษกาญจนาภิเษก รวม 6 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 รวมทั้งเพิ่มการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา (บางปะอิน – ปากเกร็ด) ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม 2563 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2563

สำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะจะมีการจัดเที่ยวรถบริการประชาชาชนอย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และต้องไม่เกิดการเอาเปรียบผู้โดยสารโดยเด็ดขาด และผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ผู้ขับขี่รถโดยสารต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมให้บริการ นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดรถโดยสารให้บริการฟรี 3 เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมจิตอาสา ระหว่างวันที่ 28 – 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 – 19.00 น. ได้แก่ เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง หัวลำโพง – สนามหลวง และ วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการเดินทางด้วยระบบราง กรมการขนส่งทางรางได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่ให้บริการด้านการขนส่งทางราง เพื่อพร้อมให้บริการประชาชนโดยโครงข่ายทุกระบบต้องมีมาตรการลดการเกิดสถานการณ์ขัดข้องให้น้อยที่สุดและพร้อมดำเนินการแก้ไขตลอดเวลา พร้อมทั้งการเพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟและรถไฟฟ้า เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในระบบรถไฟรถไฟฟ้า ขอรับการสนับสนุนสุนัขตรวจค้นหาวัตถุระเบิด ยาเสพติด (K-9) รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางรถไฟ รถไฟฟ้า ตลอดจนเฝ้าระวังจุดเสี่ยงต่าง ๆ อีกทั้งได้ให้โครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหมั่นตรวจสอบและจัดสภาพหน้างานให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ลดการกีดขวางเส้นทางจราจร

นอกจากนั้นในส่วนของการเดินทางทางน้ำนั้น ได้ดำเนินการให้มีการตรวจเช็คสภาพเรือโดยสารให้ความพร้อมให้บริการ เคร่งครัดในมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางน้ำ ความปลอดภัยของท่าเรือ จัดเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์ ตรวจความพร้อมของเรือโดยสารและอุปกรณ์ช่วยชีวิต

ส่วนการเดินทางทางอากาศ ท่าอากาศยานทุกแห่งได้มีความพร้อมในด้านการคัดกรองผู้โดยสาร ความเข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ท่าอากาศยานดอนเมือง ได้จัดพื้นที่จอดรถยนต์สำหรับให้บริการผู้โดยสาร รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว 24 – 28กรกฎาคม 2563 โดยไม่คิดค่าบริการ จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1. อาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น เฉพาะชั้น 2 รองรับได้จำนวน 150 คัน 2. ลานจอดรถยนต์หน้าอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น รองรับได้จำนวน 150 คัน 3. ลานจอดรถยนต์ระหว่างอาคารจอดรถยนต์คลังสินค้า 5 ชั้น และคลังสินค้า 2 รองรับได้จำนวน 150 คัน

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 กระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำด้านมาตรฐานสาธารณสุขของผู้ปฏิบัติงานให้บริการ และผู้โดยสารด้วยมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) ทั้งภายในรถโดยสารและที่นั่งคอยภายในสถานีฯ ตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ควบคุมการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างเคร่งครัด ให้ผู้โดยสารลงทะเบียนเช็คอิน – เช็คเอาท์ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่ใช้บริการและที่สถานีฯ จัดเตรียมเจลแอลกอฮอล์ให้บริการ แก่ผู้โดยสาร ทำความสะอาดยานพาหนะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั้งก่อนและหลัง การให้บริการเป็นประจำ

สำหรับการให้บริการภายในสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีรถไฟฟ้า และท่าเรือโดยสารทุกแห่งได้เน้นย้ำให้ทำความสะอาดสิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะจุดที่สัมผัสบ่อยครั้ง รวมทั้ง ได้ติดตั้งที่กั้นแผ่นใสบริเวณเคาน์เตอร์ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้ใช้บริการด้วย

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ให้บริการข้อมูล ประสานการอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางและรับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ ดังนี้ ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356 ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584 ศูนย์บัญชาการกรมทางหลวง โทร. 1586 ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146 ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543 ศูนย์รัชดา ขสมก. โทร. 1348 และศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ รฟท. โทร. 1690