“คนละครึ่งเฟส 5” แสงริบหรี่ “อาคม” เผยงบมีจำกัด จากนี้เน้นยิงกระสุนดูแลเฉพาะกลุ่มเป็นหลัก

  • เผยรับโจทย์กระทรวงพลังงาน หารือด้านราคาพลังงานผันผวนไม่หยุด เพื่อช่วยเหลือประชาชน
  • ชี้อยู่ระหว่างหารือแนวทางกับ สศช. คาดได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้
  • กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ลุ้นเฮต่อ มีสิทธิ์ได้รับการช่วยเหลือต่อ ย้ำต้องเป็นวินฯ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งฯ

วันนี้ (13 มิ.ย.65) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกระทรวงการคลังได้รับโจทย์จาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ให้พิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชน เพื่อช่วยลดครองค่าชีพในด้านพลังงาน โดยจากที่พูดคุยกันรูปแบบการข่วยเหลือจากนี้ จะเน้นไปที่การช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มมากขึ้น กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และผู้ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือแนวทางกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.นี้ 

“ในช่วงที่ประเทศไทยโดนผลกระทบจากโควิด ระบบเศรษฐกิจก็มีผลต่อกำลังซื้อ แต่ในเรื่องน้ำมันยังมีรายได้ แต่กำลังในการเติมของประชาชนลดน้อยลง จึงอยากช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มประชาชนฐานราก อย่างเช่นกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ ก็จะดูว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง โดยจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย แต่ผู้ที่จะขอรับการช่วยเหลือต้องเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก จากนี้ก็ขอย้ำว่ามาตรการช่วยเหลือแบบเหวี่ยงแหก็คงลดน้อยลง” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ในส่วนของโครงการขวัญใจมหาชน อย่าง “โครงการคนละครึ่ง” นายอาคม ได้กล่าวว่า ในส่วนโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 นั้นไม่ได้ดำเนินการด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่ใช้งบจากเงิน พ.ร.ก.กู้เงิน ซึ่งการกู้เงินก็มีเหตุผลที่จะต้องกู้มาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งสามารถทำได้ 

ทั้งนี้เมื่อเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวกลับมาในทิศทางที่ดี ความจำเป็นในการออกมาตรการต่างๆ อาจจะลดน้อยลงไป และการออกโครงการคนละครึ่งจะต้องช่วยเหลือรวมทั้งในกลุ่มบัตรคนจนด้วย ซึ่งในส่วนนี้ใช้งบประมาณค่อยข้างมาก 

“ความจำเป็นที่จะใช้มาตรการในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว จะต้องเน้นทำให้ถูกฝาถูกตัวมากขึ้น เพราะทุกประเทศที่ออกมาตรการอะไรก็ตาม จะต้องดูรายได้ที่หามาได้ของรัฐบาลควบคู่ไปด้วย คงจะใช้จ่ายเหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่ง พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มีวงเงินเหลืออยู่ประมาณ 40,000 ล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอ เพราะการใช้งบประมาณในการออกมาตรการแต่ละครั้งอยู่ที่ 30,000-50,000 ล้านบาท” รมว.คลัง กล่าว