คนจีนสุดปลื้ม“ทุเรียนไทย” ราคาจำหน่ายสูงสุดรอบ 5 ปี พร้อมผลักดันการส่งออกผ่านเส้นทางรถไฟจีน – ลาว ช่วยลดระยะเวลาขนส่งทุเรียนจากไทยสู่ตลาดจีน
- ภาครัฐ – เอกชนจัดชิมทุเรียนไทย 5 สายพันธุ์
- พร้อมส่งเสริมการส่งออกผ่านทางรถไฟจีน – ลาว
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความนิยมและยอดการส่งออกทุเรียนไทยในจีน ซึ่งประสบความสำเร็จ สามารถดึงดูดผู้บริโภคชาวจีนและสร้างมูลค่าทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดหน่วยงานไทยในจีนได้จัดงาน “Thailand Loves You – Thai Fruit Golden Months 2023” เพื่อจัดกิจกรรมชิมทุเรียนไทย 5 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ชะนี พันธุ์ก้านยาว พันธุ์พวงมณี พันธุ์หมอนทอง และพันธุ์นวลทองจันทร์ พร้อมผลักดันการส่งออกผ่านเส้นทางรถไฟจีน – ลาว ช่วยลดระยะเวลาขนส่งทุเรียนจากไทยสู่ตลาดจีน ทำให้ทุเรียนสามารถคงคุณภาพได้ตามมาตรฐาน
สำหรับการจัดงาน “Thailand Loves You – Thai Fruit Golden Months 2023” เป็นกิจกรรมให้ความรู้ผ่านการชิมทุเรียนไทย (Durian tasting) 5 สายพันธุ์ และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคทั่วไปเข้าร่วมงาน ทั้งการเล่นเกม แข่งกินผลไม้ ตอบคำถามชิงรางวัล ชิมผลไม้/ไอศกรีมที่ทำจากผลไม้ และเลือกซื้อผลไม้ที่ส่งตรงจากไทยในราคาพิเศษ โดยจัดพื้นที่กิจกรรมหน้าห้างสรรพสินค้าหางหยาง ซึ่งเป็นห้างที่ได้รับความนิยมของชาวจีนในนครหนานหนิง และจัดกิจกรรมคู่ขนานในร้านขายผลไม้ Pagoda ทั้ง 97 สาขา ทั่วนครหนานหนิง รวมทั้งทางแอพพลิเคชันของร้านเพื่อให้ผู้บริโภคชาวจีนสามารถซื้อผลไม้ไทยที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาได้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์
นายอนุชากล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกทุเรียนไทยไปยังตลาดจีนมีพัฒนาการต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวของจีน (Xinhua) เผยผลสำรวจตลาดผลไม้ขนาดใหญ่หลายแห่งในมณฑลยูนนาน พบว่ายอดขายทุเรียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและมียอดสูงสุดเมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2566 นี้ ทุเรียนไทยมีราคาสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยขายทุเรียนได้ถึงวันละ 70,000–80,000 ลูก
รวมไปถึงนครคุนหมิง พบว่า ปริมาณการจัดส่งทุเรียนไทยรายวันในช่วงที่ความต้องการสูงจะอยู่ที่ 20-30 ตู้คอนเทนเนอร์ (รวมประมาณ 340-510 ตัน) โดยทุเรียนหมอนทองเกรดเอมีราคาอยู่ที่ 700-800 หยวน หรือคิดเป็นราคาไทยประมาณ 3,430 – 3,920 บาท/กล่อง นอกจากนี้ยังพบว่า เส้นทางการขนส่งทุเรียนผ่านทางรถไฟจากจังหวัดจันทบุรีของไทยไปยังประเทศลาว และต่อเนื่องไปยังนครคุนหมิงด้วยทางรถไฟจีน – ลาว ขนส่งเร็วที่สุดภายใน 3 วัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดระยะเวลาขนส่งทุเรียนจากไทยสู่ตลาดจีนเป็นอย่างมาก ทำให้ทุเรียนสามารถคงคุณภาพ ลดความเสี่ยงที่เกิดจากการขนส่งได้ถึงร้อยละ 90
