กรมเจ้าท่า เปิดตัวเรือไฟฟ้าต้นแบบเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมนำมาให้บริการ ประชาชน ในเดือนธันวาคม 63 นี้ มั่นใจในอนาคตเรือไฟฟ้าจะช่วยให้ค่าโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยาถูกลงแน่นอน เนื่องจากต้นต้นทุนเชื้อเพลิงลดลงกว่า 40% พร้อมเล็งขยายเส้นทางเดินในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มจากปากเกร็ดถึงปทุมธานี ส่วนทิศใต้ขยายถึงสมุทรปราการ เน้นเชื่อม 6 ท่าเรือหลักต่อเชื่อมรถไฟฟ้า อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า(จท.)เปิดเผยถึงแนวนโยบายที่จะนำเรือโดยสารไฟฟ้ามาให้บริการในทะเล และ แม่น้ำเจ้าพระยาว่า ขณะนี้เรือต้นแบบได้มีการผลิตและนำมาทดลองแล้ว ซึ่งตามแผนในปี 64 เรือไฟฟ้า เพื่อการท่องเที่ยวจะให้บริการที่ทะเลจังหวัดภูเก็ตก่อน 30 ลำ และตามแผนใน 3-4 ปี จะมีให้บริการครบ 200 ลำ ส่วนในแม่น้ำเจ้าพระยาภายในปลายปีนี้ทางผู้ประกอบการเรือโดยสาร เรือด่วนเจ้าพระยาก็พร้อมที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนจากเรือปัจจุบันมาเป็นเรืออลูมิเนียมใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งมั่นใจว่าหากมีการปรับเปลี่ยนมาใช้เรือพลังงานไฟฟ้าจะทำให้มีการปรับค่าโดยสารของผู้ใช้บริการลดลงแน่นอน เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจะลดลงกว่า 40%
สำหรับสาเหตุที่ค่าโดยสารทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงในอนาคต เนื่องจากเมื่อมีการเปลี่ยนวัสดุการผลิตเรือจากเดิมเรือไม้ มาเป็นเรืออลูมิเนียม และเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมันจะทำให้ ต้นทุนการบำรุงรักษาเรือลดลง ขณะเดียวกันเมื่อมีอุบัติเหตุ เรืออลูมิเนียมจะไม่จม เนื่องจากสภาพตัวเรือจะมีน้ำหนักเบา จะช่วยให้ผู้ประกอบการ ที่ใช้เรือไฟฟ้า ผลิตจากอลูมิเนียม มีต้นทุนเชื้อเพลิงถูกกว่าเรือใช้น้ำมันถึง 40%
ส่วนประเด็นเรื่องของ การรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับความมั่นใจในการใช้บริการ หลังในช่วงที่ผ่านมามีอุบัติเหตุทางเรือ เกิดขึ้นติดกัน ทั้งที่เกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานีและในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าทุกพื้นที่เข้มงวดหากกรมอุตุนิยมประกาศออกมาก็ห้ามออกเรือโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกันให้ตรวจสภาพเรือ และคู่มือประจำเรืออย่างเข้มงวดหากไม่มีมาตรฐานให้ปรับปรุงทันที นอกจากนั้นในส่วนของเรือโดยสารที่ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งระบบ ขณะนี้ได้สั่งการให้ เจ้าท่าตรวจเรือที่ให้บริการให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เป็นต้นไปให้ครบทุกลำ โโยเรือที่ให้บริการในเจ้าพระยาแบ่งออกเป็น เรือโดยสาร จำนวน 100 ลำ,เรือข้ามฟาก 40-50 ลำ และ เรือภัตตาคาร จำนวน 30-40 ลำ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น จท. มีนโยบายที่จะขยายเส้นทางเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากเดิมทางด้านทิศเหนือจะสิ้นสุดที่ท่าเรือปากเกร็ดก็จะขยายไปถึงปทุมธานี ส่วนทิศใต้แม่น้ำเจ้าพระยาจากเดิมสิ้นสุดที่ท่าเรือสาทร จะขยายเชื่อมต่อไปยังสมุทรปราการ ซึ่งเส้นทางใหม่ทั้ง2เส้นทางจะมีจุดเริ่มต้นจากท่าเรือสาทร อย่างไรก็ตามการขยายเส้นทางเรือนั้นทาง จท. จะเน้นจุดเชื่อมต่อท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพะยาที่ขึ้นเชื่อสถานีรถไฟฟ้าได้ เบื้องต้นท่า้รือที่เชื่อมรถไฟฟ้ามี 6 ท่าเรือ ประกอบด้วย ท่าเรือพระนั่งเกล้า,ท่าเรือบางโพ,ท่าเรือราชินี,ท่าเรือเจ้าท่า,ท่าเรือสาทร,ท่าเรือปิ่นเกล้า
