คณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ศบค.ชงเปิด ห้างสรรพ สินค้า ร้านตัดผม หวั่นคนตกงานทะลุ 10 ล้านคน

  • ขอรัฐช่วยจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้าง 50%
  • สมาคมธนาคารไทยจ่อผ่อนปรนเงื่อนไขซอฟท์โลน

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.นัดแรก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง ว่า ภาคเอกชนได้มีข้อเสนอมาตรการรับมือกับสถานการณ์ช่วงเวลานี้ มีการประเมินมาตรการระยะที่1-3 ที่รัฐบาลประกาศออกมาแล้ว รวมถึง และในอนาคตเมื่อจะต้องมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของไวรัสคลี่คลายแล้ว พร้อมกันนี้ จึงได้แบ่งการทำงานออกเป็น 5 กลุ่มเพื่อรวบรวมข้อเสนอมากลั่นกรอง และประชุมอีกครั้งวันที่ 20 เม.ย. 2563 ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี


สำหรับ 5 กลุ่มประกอบด้วย 1.กลุ่มมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เป็นผู้ดูแล 2.กลุ่มมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ มีนายกลินทร์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดูแล 3.กลุ่มมาตรการเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นผู้ดูแล 4.กลุ่มมาตรการเพื่อการแก้ไขปัญหาด้วยดิจิทัล มีนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดูแล 5.กลุ่มมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ที่มีนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เป็นผู้ดูแล

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ประเด็นที่เสนอและเกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอีเบื้องต้น คือ การขอให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ค้ำประกันในสัดส่วน 80% เพื่อให้ธนาคารเชื่อมั่นและกล้าปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอี การขอปรับลดค่าไฟฟ้า 5% ทั่วประเทศและลดค่าไฟผันแปร( ft) เพื่อให้สอดคล้องกับราคาน้ำมัน การขอลดเงินนำส่งกองทุนประกันสังคมในส่วนของนายจ้างจาก 5%ที่รัฐลดลงให้แล้วเหลือ 4% นั้น ขอให่ลดเพิ่มอีกเหลือ 1% เพื่อให้เหมือนกับที่ลดให้ในส่วนลูกจ้างไปแล้ว

นอกจากนี้ เสนอให้ช่วยเหลือแรงงานที่เงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท โดยขอให้รัฐจ่ายให้ 50% และบริษัทจ่าย 25% ของค่าจ้าง และยังสามารถนำค่าจ้างที่จ่ายนี้มาหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณได้ 3 เท่า ขอให้งดเก็บภาษีเงินได้กรณีเอสเอ็มอีเป็นเวลา 2 ปี เพราะอย่างไรปีนี้คงจะขนาดทุนกันอยู่แล้ว และขอเลื่อนการส่งงานออกไป 4 เดือนในโครงการที่ทำสัญญากับรัฐแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากผลกระทบของโรคระบาด ตลอดจนขอ ลดอัตราภาษีจดจำนองเหลือ 0.01% อนุญาตให้จ้างงานเป็นรายชั่วโมงได้ จ้างงานวันละ 4-8 ชม/วัน

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะรวบรวมธุรกิจที่น่าจะขอให้เปิดดำเนินการได้ โดยเน้นธุรกิจที่มีความจำเป็นกับชีวิตประจำวัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านตัดผม แต่ถ้าหากเปิดจะต้องมีวิธีการให้ปลอดภัย ส่วนจำนวนคนตกงานขณ้ะมีจำนวน 7 ล้านคน หากยืดเยื้อไปอีก 2-3 เดือนจะมีคนตกงานถึง 10ล้านคน นอกจากนี้ ขอให้เอกชนสามารถนำค่าใช้จ่ายสำหรับป้องกันโควิด-19 มาหักค่าใช้จ่ายได้ 3 เท่า ขอให้ออกเกณฑ์การประชุมกรรมการบริษัทผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-มีทติ้ง โดยที่กรรมการไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศไทยทั้งหมดก็ได้ เพราะเกณฑ์ปัจจุบันแม้จะประชุมทางไกลกันได้แต่ทุกคนยังต้องอยู่ในประเทศไทย แต่ปัญหาของกรรมการหลายบริษัทที่เป็นต่างชาติไม่สามารถเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงได้ขอขยายการลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคการกุศลสำหรับปีนี้เป็นไม่มีเพดาน

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จะจัดทำโครงร่างปัญหาที่เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อผ่อนปรน(ซอฟท์โลน)ไม่ได้ไปพลางก่อน เพื่อรอให้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ หรือซอฟท์โลน วงเงิน 500,000 ล้านบาทให้แก่ ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ตัวตริงประกาออกมาใช้ก่อน จึงจะเห็นภาพชัดว่าธนาคารจะผ่อนปรนเงื่อนไขในเรื่องหลักประกันได้แค่ไหน รวมถึงประเด็นที่บอกว่ารัฐจะชดเชยความเสียหายบางส่วนกรณีหนี้เสีย 60-70% ก็ต้องรอ พ.ร.ก.ออกมาก่อนเพราะในสภาพความจริงจะต้องมีสูตรในการคำนวณด้วย

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเด็นที่ได้เสนอเน้นไปที่การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาเป็นตัวช่วยในการพัฒนาฝีมือแรงงานทั้งลักษณะการยกระดับและการฝึกฝน การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมเพื่อเป็นพื้นฐานการเข้าถึงการเรียนรู้ การหาเครื่องมือที่จะเป็นสื่อการเรียน เช่นคอมพิวเตอร์ที่มีความจำเป็นต่อการเรียนออนไลน์ การเชื่อมโยงตลาด การเข้าถึงบิ๊กดาต้า ระบบกฎหมายที่จะเข้ามาดูแลให้เกิดความปลอดภัยของข้อมูล