ข่าวร้ายสำหรับนักเก็งกำไร ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน ร่วงลงไปหนักถึงเกือบ -20% เกือบหลุดระดับ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อหนึ่งบิตคอยน์ไปแล้ว โดยภาวะการซื้อขายในรอบ 24 ขั่วโมงที่ผ่านมา มีแรงขายมูลค่า 9.2 พันล้านเหรียญหรือเป็นมูลค่า 3 แสนล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น.รามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ในตลาดโลกหล่นวูบจากระดับที่ 60,000 ดอลลาร์ลงมาแตะระดับ 50,000 ดอลลาร์ ฯหรือลดลงเกือบ -20% เป็นการร่วงครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 2 เดือน (กดให้ราคาบิตคอยน์ ในราคาเงินบาทร่วงลงต่ำกว่า 2 ล้านบาทต่อบิทคอยน์ไปเรียบร้อย)
โดยช่วงบ่ายราคาได้ถีบตัวสูงขึ้นเป็น 56,000 ดอลลาร์ฯ ลดลง 3,900 ดอลลาร์ขณะราคาเงินบาทที่ 1.95 ล้านบาทลดลง 83,000 บาท ต่อหนึ่งบิตคอยน์
สำหรับสาเหตุยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เพราะเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ แต่คาดว่าน่าจะมาจากผู้ที่ถือรายใหญ่ (Whale) มีการขายทำกำไรออกมาด้วยมูลค่าที่สูงมาก
ทางเพจ ทันโลกกับ Trader KP รายงานว่า ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน เพราะเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ แต่คาดว่าน่าจะมาจากผู้ที่ถือรายใหญ่ (Whale) มีการขายทำกำไรออกมาด้วยมูลค่าที่สูงมาก
แต่ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ว่า การเก็งกำไรบิตคอยน์ นั้นเป็นสิ่งที่เสี่ยงมาก และไม่แนะนำเลย เพราะบิตคอยน์ น่าจะเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงที่สุดในโลกแล้ว การกะจังหวะเก็งกำไรที่ผิดนั้นอาจทำได้เสียหายมหาศาล
แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวการที่ราคา ร่วงลงมาหนักขนาดนี้นั้นถือเป็นข่าวที่ดีมาก สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อว่าบิตคอยน์จะเข้ามาแทนที่ทองคำในการเป็น Digital Gold 2.0 ได้
เพราะในฐานะนักลงทุนระยะยาวจะไม่ซื้อสินทรัพย์ในช่วงที่เป็นราคาขาขึ้นอยู่แล้ว แต่เราจะซื้อเมื่อราคาย่อลงมา (Buy on Dip) และนี่ก็เป็นโอกาส Dip อีกครั้งให้นักลงทุนระยะยาวตัดสินใจปรับสัดส่วนเปอร์เซนต์ ในพอร์ต
อย่างไรก็ตามจากสถิติระยะยาวแล้วการเข้า Buy on Dip ของบิตคอยน์ที่ดีที่สุดนั้นจะเป็นช่วงที่ร่วงลงมา -30% จากจุดสูงสุดมากกว่า
