- ชี้ดาวโจนส์มีสิทธิทำลายจุดสูงสุดเดิม
- ปัจจัยใหม่กังวลสหรัฐฯ-อิหร่านขัดแย้ง
- นักลงทุนหลบภัยราคาทองคำ-น้ำมันพุ่ง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พักฐาน หลังปรับขึ้นต่อเนื่องหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยตามคาด เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
โดยดัชนีดาวโจนส์จ่อทำลายสถิติเดิม ในขณะนี้เหลือไม่ถึง 100 จุด ที่จะเข้าสู่สถิติสูงสุดเดิม ขณะที่ตลาดหุ้นเอสแอนด์พี 500 เพิ่มทำลายสถิติใหม่ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงปรับฐาน เพื่รอข่าว และปัจจัยใหม่ๆเข้ามา
เปิดตลาดคืนวันที่ 21 มิ.ย.เวลาประมาณ 22.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 0.25% ปิดที่ 26,819.26 จุด เพิ่มขึ้น 66.09 จุด
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก ปรับบวกเล็กน้อย 0.01% ปิดที่ 8,051.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวขึ้น 0.04% ปิดที่ 2,955.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจสน์เพิ่มขึ้น 2.5%, ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ขึ้นสูงกว่าที่คาดไว้ โดยเพิ่มขึ้น 2.3%. และที่ขึ้นมากที่สุดคือ ดัชนีแนสแด็ก ที่เพิ่มขึ้น 3.3%
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความดีใจในเรื่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน หลังจากที่อิหร่านยิงโดรนของสหรัฐฯ และผู้นำสหรัฐฯมีคำสั่งให้โจมตีอิหร่าน แต่ยกเลิกในที่สุด กลายเป็นประเด็นนักลงทุนเริ่มมีความกังวล
ส่งผลให้ ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และมีแนวโน้มที่จะสูงกว่า 1,400 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ โดยล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.2% อยู่ที่ 1,395.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อออนซ์
ทั้งนี้ ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในการลงทุน และความต้องการจะเพิ่มขึ้น เมื่อนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และแรงกดดันดังกล่าวยังส่งผลให้ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ในตลาดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 5% เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา และยังคงปีนขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์
