ขาดดุลงบปี63 เพิ่มอีก 1.9 หมื่นล้านบาท

  • “บิ๊กตู่” เคาะงบปี2563 รายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท
  • คลังเก็บรายได้ลดลงตั้งงบขาดดุล 4.69 แสนล้านบาท
  • สำนักงบประมาณ ชงให้ ครม.พิจารณาวันที่ 6 ส.ค.นี้

“บิ๊กตู่” เคาะงบประมาณปี2563 รายจ่าย 3.2 ล้านล้านบาท รายได้ 2.731 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประมาณ 469,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,000 ล้านบาท มากกว่าที่ ครม.ชุดเดิมอนุมัติไว้ 450,000 ล้านบาท เนื่องจากการกระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ลดลง เพราะ กสทช.มีรายได้ลดลง ผู้อำนวยการสำนักงบฯ ยัน ขาดดุลเพิ่มไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง

นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณากำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี2563 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า การหารือในวันนี้ (1ส.ค.) มีผลสรุปของ 4 หน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วยกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการพิจารณากรอบวงเงินงบประ มาณรายจ่ายประจำปี2563 โดยมีรายจ่ายอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท มีรายได้ 2.371 ล้านล้านบาท ขาดดุลงบประ มาณ 469,000 ล้านบาท

สำหรับงบประมาณรายจ่ายปี2563 แตกต่างจากที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมของรัฐบาลที่แล้ว โดยได้เพิ่มงบ ประมาณขาดดุลอีก 19,000 ล้านบาทจากเดิมที่กำหนดไว้ 450,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 469,000 ล้านบาท เนื่องจากกระทรวงการคลังมีรายได้จากลดลง จากกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นำส่งรายได้ลดลง

“งบประมาณปี2563 กำหนดรายจ่ายไว้เท่าเดิมคือ 3.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปีก่อน 200,000 ล้านบาท หรือ 6% เพื่อให้รัฐบาลงบลงทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น โดยในวันที่ 6 ส.ค. สำนักงบประมาณจะเสนอเรื่องดังกล่าว ให้ ครม.พิจารณาต่อไป”

นายเดชาภิวัฒน์ กล่าวว่า งบประมาณรายจ่ายปี2563 ที่ตั้งไว้ 3.2 ล้านล้านบาทนั้น ถือเป็นงบประมาณที่ภาย ใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิธีการงบประมาณและ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ทำให้งบประมาณรายจ่ายปีนี้ มีงบลงทุน 650,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20.5% ของงบประมาณรายทั้งหมด ส่วนงบประจำอยู่ที่ 2.393 ล้านล้านบาท หรือ 74.7% และอีก 2.8% หรือ 89,000 ล้านบาท เป็นงบรายคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ย ส่วนงบประมาณที่ขาดดุลเพิ่มเติมอีก 19,000 ล้านบาท จะไม่มีผลลบต่อวินัยการเงินการคลังของรัฐบาล แม้ว่างบ ประมาณจะขาดดุลต่อเนื่องมาหลายปี เพราะงบขาดดุลเป็นงบประมาณที่นำมาใช้ทางด้านการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตามแผนการที่วางไว้ จะตั้งงบประมาณสมดุลได้ในปี2573 แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นนี้ อาจจะมีการปรับแผนให้ตามความเหมาะสม

ส่วนปฎิทินงบประมาณนั้นหลังจากมีการเสนอเข้า ครม.แล้ว หน่วยงานต่างๆ จะมีคำของบประมาณไปถึงสำนักงบ ประมาณภายในวันที่ 9 ส.ค. และตามกำหนดจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาร่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำ ปี2563 ของรัฐสภานั้น สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาวาระ 1 ในวันที่ 17 ต.ค. จากนั้นคาดว่าจะพิจารณาวาระ 2 และ 3 ต้นเดือนม.ค.ปีหน้า และเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาประมาณกลางเดือนม.ค. โดยคาดว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ทูลเกล้าฯ ได้ในช่วงปลายเดือน ม.ค.2563