ขนส่งฯขยายเวลาต่อทะเบียนรถทุกประเภทหวังบรรเทาปัญหาช่วงวิกฤติCOVID-19

  • ช่วยเต็มที่ ขนส่งฯออกประกาศขยายระยะเวลาการดำเนินการทางทะเบียนรถทุกประเภท
  • เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ COVID-19
  • ขยายออกไปจนกว่าจะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมทุกหน่วยงาน พิจารณาผ่อนผันขยายระยะเวลา หรือลดหย่อนค่าธรรมเนียมภายใต้กรอบของกฎหมายไปจนกว่าจะมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้กรมฯจึงได้ออกประกาศ เรื่อง การดำเนินการทางทะเบียนและภาษีรถตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร เพื่อขยายระยะเวลาการดำเนินการทางทะเบียนของรถทุกประเภท ทั้งรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ เช่น การโอนรถ แจ้งย้ายรถ การเปลี่ยนแปลง สาระสำคัญ การส่งคืนแผ่นป้ายในกรณีทะเบียนระงับ หรือแจ้งครบอายุการใช้งาน (รถแท็กซี่) หรือแจ้งเลิกใช้รถ เป็นต้น ออกไปอีก 15 วันทำการ นับแต่วันสิ้นสุดเวลาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือประกาศเป็นอย่างอื่น

อย่างไรก็ตามโดยจะได้รับการยกเว้นการตรวจสภาพรถ และการเปรียบเทียบปรับ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ และเจ้าของรถ โดยไม่ต้องรีบเร่งมาดำเนินการในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ สำหรับรถโดยสารตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก เฉพาะกลุ่มที่มีอายุภาษีสิ้นในงวดที่ 3 (30กันยายน 2563) จะได้รับการยกเว้น การตรวจสภาพรถ และการเปรียบเทียบปรับ ระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2563 เช่นเดียวกับรถแท็กซี่ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์

สำหรับกลุ่มที่ครบกำหนดตรวจสภาพเพื่อเสียภาษี และกลุ่มที่ครบกำหนดตรวจรอบทุก 4 หรือ 6 เดือน (แล้วแต่กรณี) ได้รับประโยชน์จากการยกเว้นการตรวจสภาพรถ และการเปรียบเทียบปรับ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 จนกว่าจะมีประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินหรือมีประกาศเป็นอย่างอื่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ COVID-19 อย่างไรก็ตามเจ้าของรถควรต้องหมั่นดูแล ตรวจสอบและบำรุงรักษารถให้มีสภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยสำหรับการใช้งานตลอดเวลาอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามการชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ กรมการขนส่งทางบกขอแนะนำให้เจ้าของรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ใช้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://eservice.dlt.go.th โดยเลือกชำระเงินผ่านระบบ e-Banking บัตรเครดิต/บัตรเดบิต เคาน์เตอร์ธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ต้องเดินทาง มาที่สำนักงานขนส่ง และรอรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีพร้อมใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน

สำหรับ กรณีรถที่ไม่สามารถใช้บริการชำระภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ แนะนำใช้บริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ชำระภาษีได้โดยไม่ต้องลงจากรถ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด หรือเลือกใช้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น แอปพลิเคชัน Truemoney Wallet mPAYที่ทำการไปรษณีย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)