ขนส่งทางบกเตือน!…ป้ายแดงไม่มีขาย ซื้อป้ายแดงปลอมไปใช้ ถือว่าผิดกฎหมายอาญามีโทษถึงขั้นจำคุก

ขนส่งทางบก เตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณาขายป้ายแดงในสื่อสังคมออนไลน์ ย้ำ!!! ป้ายแดงไม่มีขาย ซื้อป้ายแดงปลอมไปใช้ถือว่าผิดกฎหมายอาญามีโทษถึงขั้นจำคุก ระบุ!!! ป้ายแดงต้องใช้คู่กับสมุดคู่มือประจำรถ อนุโลมให้ใช้ป้ายแดงเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 30 วัน นับจากวันรับรถ นำไปใช้เป็นระยะเวลานาน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขนส่งทางบกได้มีการตรวจพบการประกาศขายป้ายแดง พร้อมสมุดคู่มือประจำรถ และประกาศการรับทำป้ายแดงในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็น ป้ายแดงปลอม ที่มิได้ออกโดยกรมการขนส่งทางบก โดยป้ายแดงที่ถูกกฎหมาย ขนส่งทางบกจะออกให้กับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถที่ได้รับใบอนุญาต เพื่อใช้ติดรถและนำรถไปส่งให้ลูกค้า หรือนำรถไปซ่อมแซมเท่านั้น ไม่ใช่ป้ายทะเบียนส่วนบุคคลที่ผู้ใดจะนำไปจำหน่ายต่อหรือผลิตขึ้นเองได้ ดังนั้น จึงขอย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อซื้อป้ายแดงที่มีการประกาศขายในสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว เนื่องจากการนำป้ายแดงปลอมไปติดรถ เจ้าของรถจะมีความผิดฐานใช้เอกสารทางราชการปลอม ตามกฎหมายอาญา มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี และมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ทั้งนี้ เจ้าของรถสามารถสังเกตป้ายแดงที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก โดยตัวแผ่นป้ายต้องมีตัวอักษร ขส ลักษณะนูนที่มุมด้านล่างขวา และลายน้ำ ปรากฏในแผ่นป้ายทะเบียนรถ

ทั้งนี้ ขนส่งทางบกมีมาตรการป้องกันและตรวจสอบป้ายแดงปลอม โดยได้จัดทำระบบบริการใบอนุญาตเครื่องหมายพิเศษ(ป้ายแดง)สำหรับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถที่ได้รับใบอนุญาตบันทึกข้อมูลการใช้ป้ายแดงเมื่อมีการส่งมอบรถยนต์ให้กับผู้ซื้อ เพื่อใช้ตรวจสอบสถานะการครอบครองป้ายแดงแบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถป้ายแดงทราบว่าการใช้ป้ายแดงที่ถูกต้องนั้น จะต้องใช้คู่กับสมุดคู่มือประจำรถ โดยกรมการขนส่งทางบกอนุโลมให้ใช้ป้ายแดงเป็นการชั่วคราวไม่เกิน 30 วัน นับจากวันรับรถ

อย่างไรก็ตามหากมีการใช้รถป้ายแดงเป็นระยะเวลานาน โดยไม่นำรถไปจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีให้ถูกต้อง เจ้าของรถถือว่ามีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ฐานใช้รถโดยไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งหากรถเกิดอุบัติเหตุ หรือถูกโจรกรรมรถยนต์ จะยากต่อการติดตามตรวจสอบรถ จึงแนะนำให้ผู้ที่ซื้อรถใหม่เร่งนำรถมาจดทะเบียนและเสียภาษีรถประจำปีให้ถูกต้อง