การบินไทยขาดทุนซ้ำซาก”สุเมธ”ขอฮึดสู้อีกเฮือกขอกลับมามีกำไรในสิ้นปี

  • “สุเมธ”จนมุมรับไม่อายการบินไทยขาดทุนบักโบรกสู้ไม่ได้จริงๆ
  • อ้าง “เงินบาทแข็ง-ขาดแคลนเครื่องบินมาหาเงิน”
  • ขอสู่อีกเฮือกเร่งหารายได้มาอุดมีกำไรให้ได้ในสิ้นปีนี้

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการดำเนินการในไตรมาส 2 ของปี 62ของบริษัทขาดทุนกว่า 6,878 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้การบินไทยขาดทุนต่อเนื่อง สืบนื่องมาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ ปัจจัยภายนอก การบินไทยประสบปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่วนปัจจัยภายในคือ กรณีที่การบินไทยขาดแคลนเครื่องบิน อย่างไรก็ตามแม้การบินไทยจะขาดทุนอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ตนก็จะพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้ภายในปีนี้ บริษัทกลับมามีกำไรให้ได้ แม้ว่าจะยากก็ตาม

ทั้งนี้จากการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นไปกว่า 5%นั้น  ได้ส่งผลทำให้ทำให้การบินไทยมีรายได้ลดลงกว่า 5%เช่นกัน นอกจากนั้นกรณีที่อินเดียมีปัญหากับปากีสถานและมีการปิดน่านฟ้า ก็ได้ทำให้รายได้ของการบินไทยในส่วนนี้ลดลงกว่า1%ทันที เนื่องจากไม่สามารถทำการบินได้ใน 3เมือง การาจี อิสลามาบัด ละฮอร์​ ซึ่งทั้ง 3 เมืองมีอัตราการบรรทุกปริมาณผู้โดยสารที่ดีมาก

ส่วนปัจจัยภายในคือ กรณีที่การบินไทยขาดแคลนเครื่องบินที่จะนำมาให้บริการ ซึ่งทำให้การบินไทยขาดกำลังผลิตลง 5-6% ซึ่งเมื่อไม่มีเครื่องบินการบินไทยก็ไม่สามารถที่จะหารายได้มาได้ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าในปัจจุบัน การบินไทยมีเครื่องบินให้บริการเพียง 68-70ลำ จากที่มีทั้งหมด 82 ลำ และมีเครื่องบินที่จอด ไม่ได้ทำการบินเลย เนื่องจากรอซ่อมเครืองยนต์อยู่ 12 ลำ ส่วนเครื่องบินที่การบินไทยรอขายแต่ยังขายไม่ได้ขณะนี้มีอีก 4ลำ ประกอบไปด้วย แอร์บัส 340-500 จำนวน 1ลำ ,แอร์บัส 300-600 จำนวน 1 ลำ และ โบอิ้ง737-400 จำนวน 2 ลำ 

นอกจากนั้นในส่วนของนโยบายที่การบินไทยจะเช่าเครื่องบินมือ 2 จำนวน 3 ลำเพื่อมาทำการบินในเส้นทางบินไกล ทวีปยุโรปเช่น เส้นทางบิน บรัสเซล เวียนนา มิลาน แมนเซสเตอร์ เป็นต้นอย่างไรก็ตาม  คาดว่าจะสามารถรับเครื่องมาให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 หรือต้นปี 63  ซึ่งการเช่าเครื่องบินในช่วงนี้กลับเป็นผลดีที่ทำให้การบินไทยมีต้นทุนจากค่าเช่าลดลงจากเดิมที่จะเช่าตั้งแต่ต้นปีลง 10-20%