กสอ.จับมือธ.ก.ส.ดึงเกษตรกรแมทชิ่งเอสเอ็มอี

  • ทดแทนนำเข้าพืช-ปลาสวยงาม
  • ใช้โมเดลแกร๊ปแท็กซี่ผุดไอเดียธุรกิจบริการ
  • ดึงททท.ผลักดันหมู่บ้านซีไอวีทั่วประเทศ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยความคืบหน้า การช่วยเหลือเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน(โอทอป) ว่า เมื่อเร็วๆนี้ กสอ.ได้หารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ปัจจุบันให้ความช่วยเหลือทางการเงินและมีกลไก สนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ ที่ทำอุตสาหกรรมเกษตรอยู่แล้ว กสอ.จึงอยากให้มีการส่งเสริมการปลูกพืชที่ไม่ใช่พืชหลัก (ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม อ้อย) อาทิ ผักโขม สมุนไพร หรือ ปลาสวยงาม เพื่อให้มีวัตถุดิบเพียงพอต่อความต้องการในการนำไปแปรรูป หรือขยายช่องทางการตลาดจากเดิมที่ต้องนำเข้าเป็นหลัก เพื่อให้เกษตรกรมีการผลิตพืชทางเลือกมากขึ้น โดยจากการหารือพบว่าธกส.มีเครือข่ายเกษตรกรกว่าหมื่นราย คิดเป็น 928 สาขา ทั่วประเทศ สามารถประสานกับเอสเอ็มอี ที่ทำผลิตภัณฑ์ด้านเกษตรหลายหมื่นราย ในความดูแลของกสอ. ได้ทันที

นอกจากปัจจัยด้านวัตถุดิบที่เชื่อมโยงกัน ธกส.ได้เสนอให้ กสอ. ช่วยเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทั้งกระบวนการแปรรูป และการออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้มีความสวยงาม ทันสมัย ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งส่วนนี้ กสอ. มีกิจกรรมและโครงการ ที่เปิดอบรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีอยู่แล้ว รวมทั้งมีศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ไอทีซี 4.0) ที่สามารถให้คำแนะนำคำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุริยะ กล่าวว่า จากการหารือ กสอ.ยังมีแนวคิดที่จะสร้างกลไกการให้บริการเครื่องจักร โดยพัฒนาสตาร์ตอัพแอปพลิเคชัน ที่ให้บริการเครื่องจักรการเกษตร ลักษณะเหมือนเรียกแกร๊บแท็กซ ี่ให้เกษตรกรสามารถเช่าเครื่องจักรไปใช้ได้ในรัศมีพื้นที่นั้น ๆ อาทิ รถสีข้าว เครื่องลดความชื้นข้าวเปลือก เกิดการต่อยอดธุรกิจการผลิตเครื่องจักรสำหรับการเปิดเช่าบริการ ขณะเดียวกันอาจต้องปรับปรุงฟังก์ชัน การใช้งานเครื่องจักรให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้น เพราะหากเป็นเครื่องจักรเฉพาะข้าวอย่างเดียว หากหมดฤดูผลิต จะทำให้เครื่องจักรเสียโอกาส โดยปีนี้แผนพัฒนาเครื่องจักรบริการต้องชัดเจน”นายณัฐพลกล่าว

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)กล่าวว่า เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน มีรายได้หลายช่องทาง กสอ.จะเข้าหารือกับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ในการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (ซีไอวี) โดยร่วมมือกับ ททท.ในการจัดเส้นทางท่องเที่ยว สร้างแลนมาร์คสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากกิจการที่พัก ร้านอาหาร ร้านของฝาก โดยตั้งเป้าจะดำเนินการใน 120 ซีไอวี จากทั้งหมด 215 ซีไอวีทั่วประเทศ

“แผนการทั้งหมดจะเริ่มเห็นแผนดำเนินการภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อพัฒนาเอสเอ็มอี วิสาหกิจชุมชน ให้ปรับตัว สร้างระบบนิเวศที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง ต้องรอด ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลมีผลกระทบกับธุรกิจเดิมอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า ดิจิทัล ดิสรัปชัน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “