กลุ่มคิง เพาเวอร์ สานฝันเป็นจริงเยาวชนไทยสู่การฝึกทดสอบฝีเท้าในยุโรป

  • สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดโอกาสให้นักเตะอาชีพของไทย 
  • ได้มีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีระดับยุโรป 
  • ต่อยอดยกระดับวงการฟุตบอลอาชีพไทยสู่ยุโรป

ฟุตบอล เป็นกีฬาที่เข้าถึง ผู้คนทุกเพศทุกวัยทั่วโลกให้ความสนใจ ฟุตบอลไม่เพียงแต่เป็นกีฬาที่เล่นเพื่อความสนุกสนาน ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และก่อให้เกิดความสามัคคี สร้างการเรียนรู้และการทำงานเป็นทีม อีกทั้ง ยังสามารถต่อยอดเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ในอนาคต 

ปัจจุบัน เด็กและเยาวชนหลายคนมีความฝันต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่กว่าจะถึงฝั่งฝันหรือประสบความสำเร็จเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้  นอกจากความตั้งใจที่ต้องมีเป็นพื้นฐาน วันนี้ ‘โอกาส’ ยังเป็นสิ่งสำคัญ

นับว่าความฝันของเด็กและเยาวชนจะใกล้ความจริงมากขึ้นจากการที่ในปีพ.. 2553  กลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์เข้าบริหารอย่างสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้เพื่อจุดมุ่งหมายในการสร้างโอกาส’  ให้ฟุตบอลไทยโดยเฉพาะนักเตะเยาวชน  ได้ไปในสายอาชีพฟุตบอลมากกว่าในระดับอาเซียนและสร้างชื่อของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านกีฬายอดนิยมของคนทั่วโลกตลอดจนแสดงศักยภาพของคนไทยในการบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ในทุกมิติตลอดระยะเวลา10 ปีที่ผ่านมาในฐานะเจ้าของธุรกิจด้านกีฬาแสดงให้โลกได้เห็นถึงวิสัยทัศน์ค่านิยมจนได้รับการยอมรับทั่วโลกโดยใช้เวลา4 ปีเป็นบทพิสูจน์ที่ทำให้ทีมเลสเตอร์ซิตี้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกในรอบทศวรรษของสโมสรพร้อมสร้างตำนานบทใหม่ในวงการฟุตบอลของอังกฤษที่เป็นทีมสโมสรเล็กแต่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ปัจจุบันเลสเตอร์ซิตี้เป็น1 ใน20ทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกและมีอะคาเดมี่สอนฟุตบอลที่ดีที่สุดติด1ใน 3ของอังกฤษสร้างตำนานจิ้งจอกสยามให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก  รวมถึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลกลุกขึ้นสู้กับความเป็นไปไม่ได้ในชีวิตให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และหลังจากนั้นในปีพ.. 2560  คิงเพาเวอร์ได้เข้าบริหารสโมสรฟุตบอลโอเอชลูเวินทีมฟุตบอลในระดับดิวิชั่น2 ของประเทศเบลเยียมภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยเช่นกัน

นอกจากสร้างโอกาสไว้ในระดับสากล  ยังมีการปูพื้นฐานในระดับประเทศ สนับสนุนผลักดัน ด้วยโครงการที่สร้างแรงบันดาลใจในกีฬาฟุตบอลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการล้านลูก ล้านพลัง สานฝันเด็กไทย สร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมแบบมาตรฐานสากล โครงการคลินิกฟุตบอล FOX DREAM โครงการ KING POWER CUP ที่เป็นทัวร์นาเมนท์  รุ่นอายุ 15 ปี ระดับประเทศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพื่อคัดเลือกเยาวชนไทยที่มีฝีเท้าดีที่สุด

เข้าไปอยู่ในโครงการ FOX HUNT ซึ่งน้องๆ จะได้รับทุนการศึกษาและไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ระยะเวลา 2 ปี

และวันนี้มีอีกหนึ่งโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 สโมสรมีคนไทยเป็นเจ้าของและมีวิสัยทัศน์เดียวกันเปิดโอกาสให้นักเตะอาชีพของไทยได้มีโอกาสแสดงความสามารถในเวทีระดับยุโรปเพื่อต่อยอดยกระดับวงการฟุตบอลอาชีพไทยสู่ยุโรปโดยมี 3 นักเตะดาวรุ่งดีกรีทีมชาติไทยของสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ดอย่างภโชคสารชาติ, ศุภชัยใจเด็ด, ศุภณัฎฐ์เหมือนตา เข้าร่วมทดสอบฝีเท้ากับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ในช่วงฟุตบอลไทยลีกปิดฤดูกาลในปี 2020 เป็นเวลา 1 เดือน 

โดยนายอัยยวัฒน์  ศรีวัฒนประภาประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ กล่าวว่า เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยและความตั้งใจแรกของเราที่เข้าบริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้คือเราจะสนับสนุนความสามารถของนักเตะไทยเลสเตอร์ซิตี้ให้ความสำคัญกับบุคลากรและการพัฒนาศักยภาพของนักเตะรวมถึงด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมาพัฒนาทักษะซึ่งเรามองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนด้านฟุตบอลระยะยาวปัจจุบันเรามีศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรปและมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดีที่สุดเพื่อให้นักเตะทุกคนสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในทุกช่วงเวลาการที่ 3 นักเตะดาวรุ่งได้ไปทดสอบฝีเท้าที่เลสเตอร์  ซิตี้นับว่าเป็นโอกาสที่นักเตะจะได้โชว์ฝีเท้าและความสามารถของตัวเองในระดับยุโรปถ้าผลการทดสอบออกมาตามเกณฑ์ก็จะสนับสนุนให้ไปเล่นต่อที่สโมสรในยุโรปอาทิสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้และสโมสรฟุตบอลโอเอชลูเวินประเทศเบลเยี่ยมในอนาคตทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของทั้ง 3 คนซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหากการทดสอบไม่ประสบความสำเร็จอย่างน้อยก็มีรายชื่ออยู่ในฐานระบบ Scouting ของยุโรปที่ผ่านมาเลสเตอร์ซิตี้เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนไทยในด้านกีฬามาโดยตลอดโครงการต่างๆที่เลสเตอร์และคิงเพาเวอร์ทำมาเพื่อตอบโจทย์ว่าเราอยากเห็นคนไทยไปเล่นในสโมสรในยุโรป

ในขณะที่นายเนวิน  ชิดชอบ  ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวว่า เป้าหมายหลักในครั้งนี้อยากเห็นนักฟุตบอลไทยได้มีโอกาสเล่นในลีกระดับสากลตลอดระยะเวลาที่ทำฟุตบอลมาบุรีรัมย์ยูไนเต็ด  เราสร้างโอกาสและส่งเสริมในการส่งนักเตะไทยไปทดสอบฝีเท้าหรือเซ็นสัญญา

กับทีมในลีกที่ดีกว่าเสมอและถ้าจุดหมายปลายทางนั้นเป็นยุโรปโดยเฉพาะถ้าเป็นเลสเตอร์ซิตี้เราจะผลักดันอย่างเต็มที่และเราอยากให้คนทั้งโลกได้เห็นตัวอย่างความมุ่งมั่นและพยายามที่พร้อมทุ่มเทแบบสุดตัวของคนไทยผมมั่นใจว่าเด็กของบุรีรัมย์จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กรุ่นต่อไปที่กำลังเดินตามเส้นทางของฟุตบอลอาชีพได้   เปิการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยจะต้องก้าวหน้าไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องการลงมือทำต่อจากนี้  ต้องสามารถจับต้องได้เห็นเป็นรูปธรรมที่สำคัญต้องได้มาตราฐานในระดับสากลจึงเกิดเป็นความร่วมมือที่จะส่ง 3 นักเตะของสโมสรที่มีฝีเท้าโดดเด่นเพื่อเข้าทดสอบฝีเท้ากับสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ในครั้งนี้” 

ด้าน 3 เยาวชนไทยที่ได้รับโอกาสนี้ โดย สุภโชคสารชาติกองกลางตัวรุก กล่าวว่า “ผมคนอำเภอ ขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษครับ รักกีฬาฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ เล่นกับเพื่อนๆ แถวบ้านครับ จนพอทราบว่าทางสโมสรฯ เปิดคัดนักเตะอะคาเดมีก็ได้มาคัดตัวและได้เข้ามาอยู่ที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 13 ปี ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อดทน ฝึกฝน อยู่ในระเบียบวินัย และการแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ทำให้ผมได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 19 ปี ปัจจุบันผมอายุ 22 ปี และผมก็ยังคงฝึกฝนและรักษามาตรฐานของตัวเองไว้เป็นอย่างดี จนทำให้ได้รับมีโอกาสที่พิเศษเช่นนี้ ต้องขอบคุณทางสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เห็นความสามารถและคัดเลือกพวกเราทั้ง 3 คน เราจะตั้งใจ และพยายามทำให้เต็มที่ เรียนรู้ความเป็นมืออาชีพ พร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด”   

ด้านน้องชาย ศุภณัฏฐ์เหมือนตา กองหน้าวัย 18 ปี เล่าว่า “ผมเล่นฟุตบอลเพื่อความสนุกสนาน เพราะผมกับพี่ชาย (สุภโชค สารชาติ) เป็นเด็กต่างจังหวัด ผมก็เล่นฟุตบอลมาตลอดตั้งแต่เด็ก ตอนหลังผมเข้ามาคัดตัวที่สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ฯ ตามพี่ชาย และได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรฯ  ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนความคิดให้ผมอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ การเข้าสู่อะคาเดมีเต็มไปด้วยกฎระเบียบที่เคร่งครัด มีการปลูกฝังเรื่องนี้ให้นักฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนต้องอยู่ในกฎระเบียบ  เพื่อที่ตัวเองจะได้มีเงินเดือน มีอาชีพที่ดีต่อไป แต่พอขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ผมก็เห็นว่ามันมีการแข่งขันภายในทีมที่สูง ทุกคนเป็นมืออาชีพและพยายามสู้เพื่อแย่งชิงโอกาสเป็นตัวจริงยิ่งผมเป็นเด็กอายุน้อย ผมก็ต้องซ้อมให้หนักกว่า พยายามให้มากกว่ารุ่นพี่ ผมต้องทำงานหนักเพื่อทำให้โค้ชเชื่อใจ และเห็นว่าผมสามารถเล่นได้ถ้าให้โอกาสผม

ลงสนาม และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจทำให้ผมได้โอกาสเป็น 1 ใน 3 คน ที่ได้มีโอกาสไปฝึกทักษะที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และพวกเราทั้ง 3 คนมั่นใจว่า ก่อนปิดฤดูกาลไทยลีกอีก 1 ปี เรายังพอมีเวลาที่จะเตรียมตัวพร้อมสู้ เตรียมตัวปรับทักษะในด้านต่างๆ เพื่อพร้อมไปแสดงฝีเท้าที่สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้

ในส่วน ศุภชัยใจเด็ด เสริมว่า “การได้มีโอกาสไปฝึกซ้อมครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาที่ได้พิสูจน์ตัวเอง จะแสดงศักยภาพตัวเองให้ดีที่สุด เมื่อมีโอกาสจะเก็บประสบการณ์ให้มากที่สุด พร้อมจะเดินทางไปทำหน้าที่และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งนี้อย่างเต็มที่ เพื่อโอกาสที่จะได้เล่นในลีกยุโรป และเพื่อเป็นการเปิดประตูให้กับน้องๆ รุ่นหลัง รวมถึงจะได้นำมาพัฒนาฝีเท้าเองเพื่อช่วยทีมชาติไทยต่อไป

และเพื่อเป็นกำลังใจให้ 3 นักกีฬาฟุตบอลที่กำลังได้รับโอกาสไปฝึกฝนสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในยุโรป ซึ่งจะสร้างโอกาสที่ดีต่อไปในสายอาชีพฟุตบอล  ตลอดจนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนไทยที่อยากมีโอกาสเหมือนนักเตะดาวรุ่ง โดย 

นายเบรนแดนร็อดเจอร์สผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ได้ฝากข้อความถึง 3 เยาวชนไทย ว่า “ผมอยากจะใช้โอกาสนี้อวยพรให้ทุกคนโชคดี กับการมาทดสอบฝีเท้าที่เลสเตอร์ ซิตี้ การถูกเชิญมาร่วมทดสอบฝีเท้าในครั้งนี้ แน่นอนว่าพวกคุณทำดีมากๆ แล้ว และถ้าพวกคุณทุ่มเทอย่างต่อเนื่อง เชื่อในความสามารถของตัวเอง และตั้งใจทำให้ดีที่สุด ผมมั่นใจว่าพวกคุณจะต้องทำให้โค้ชประทับใจอย่างมาก การมาร่วมทดสอบฝีเท้านั้น ผมอยากให้คุณนำความมั่นใจมาด้วย รวมถึงฟังโค้ชและเชื่อใจเขาและปล่อยให้ตัวเองได้แสดงศักยภาพทางด้านทัศนคติ และความกระหายในการเรียนรู้ออกมา ให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะไปสู่ความสำเร็จ พวกเราตั้งตารอคอยที่จะต้อนรับทุกคนเข้าสู่เลสเตอร์ ซิตี้ และขออวยพรให้พวกคุณทุกคนโชคดีในการมาทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ หวังว่าผมจะมีโอกาสได้พบพวกคุณทุกคน ขอให้ทุกคนโชคดีครับ”

และนายเจมส์แมดดิสันนักฟุตบอลดาวรุ่ง  กล่าวว่า “ผมขออวยพรให้ทุกคนโชคดีในการมาร่วมทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ ผมเข้าใจดีว่าการมาทดสอบฝีเท้าแบบนี้ เป็นประสบการณ์ที่กดดันมากๆ แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่คุณจะแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ผมยังจำภาพตอนเด็กๆ ที่ไปร่วมทดสอบฝีเท้าแบบนี้ได้ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งที่จะได้แสดงศักยภาพ ว่าคุณพร้อมที่จะลุยต่อขนาดไหน และสามารถนำคำแนะนำของโค้ชมาปรับใช้ในการทดสอบฝีเท้าได้เร็วแค่ไหน สิ่งสำคัญคือต้องมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังต้อง

เรียกความมั่นใจของตัวเองออกมาให้ได้ เพื่อที่จะแสดงให้โค้ชเห็นถึงจุดเด่นในการเล่นฟุตบอลแบบที่เราถนัด ผมและทีม ขอให้พวกคุณทุกคนโชคดี ยินดีต้อนรับเข้าสู่เลสเตอร์ ซิตี้ครับ” 

ทั้งหมดนี้ คือเครื่องยืนยันแล้วว่า เยาวชนไทย ที่สนใจอยากจะเล่นกีฬาฟุตบอลให้เป็นอาชีพ วันนี้มีโอกาสมากมายจากผู้ใหญ่ในสังคม ขอเพียงแค่มีความตั้งใจ และมีระเบียบวินัย มุ่งมั่นให้ฝันนั้นเป็นจริงได้

ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้กำลังสร้างศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป มีสนามซ้อมมากกว่า 14 สนาม สนามแข่งขันระดับมาตรฐานจำนวน 2 สนาม และมีสนามหญ้าเทียมทั้ง Indoor และ Outdoor  รวมถึงมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดีที่สุดเพื่อให้นักเตะทุกคนได้ฟื้นฟูร่างกายในทุกช่วงเวลา และจะกลายเป็นสถานที่ที่ช่วยสร้างโอกาสด้านฟุตบอลที่ยั่งยืนให้กับ เด็กและเยาวชนไทยที่มีความมุ่งมั่นอีกมากมายในอนาคต