กลุ่มเซ็นทรัล เปิดตัวโครงการ “Wongamat Beach Village” แลนด์มาร์กรูปแบบใหม่แห่งแรก และ แห่งเดียวในประเทศไทย

. ‘Unique Natural Beach Park & Lifestyle Mall’แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย
.ชูแนวคิดการออกแบบ “แหงนหน้าเห็นท้องฟ้า ระดับสายตาเห็นต้นไม้ ก้าวเท้าเหยียบผืนทราย”
.คาดมีผู้มาใช้บริการรวมมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย

นายพงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัล เล็งเห็นถึงการพัฒนาและเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านและต่อเนื่องของเมืองพัทยาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับการเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ทำให้เมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทั้งคุณภาพและศักยภาพความพร้อมในหลากหลายด้าน กลุ่มเซ็นทรัล จึงได้จัดทำโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ โครงการใหม่ล่าสุดที่จะเนรมิตรพื้นที่ริมหาดวงศ์อมาตย์ เมืองพัทยาให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ด้วยมูลค่าโครงการกว่าพันล้านบาท กับแนวคิดการออกแบบให้เป็น Unique Natural Beach Park & Lifestyle Mall ริมทะเลที่แรกและที่เดียวของประเทศไทย ผ่านการนำความเรียบง่ายและงดงามของธรรมชาติแบบดั้งเดิมของหาดวงศ์อมาต พัทยา ในอดีตที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ หาดทราย สวนร่มรื่นริมหาดอย่างเป็นเอกลักษณ์ กลับคืนมาสู่ปัจจุบัน

พร้อมเติมแต่งด้วยสถาปัตยกรรมเพื่อการเข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยโครงการ วงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ จะสร้างไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ให้กับคนทุกเพศทุกวัย และเป็น Central of Life หรือศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้คนในพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งยังเป็น Living Space ของการพบปะสังสรรค์ พักผ่อนหย่อนใจและสร้างแรงบันดาลใจแห่งความคิดสร้างสรรค์ ผ่านหลากหลายกิจกรรมเวิร์คช็อปงานศิลปะและงานคราฟท์ (Art & Craft Workshop) กิจกรรมกีฬาทางน้ำและบนชายหาด (Sport & Beach Activity) และกิจกรรมความบันเทิง (Entertainment) อื่นๆ ในรูปแบบศิลปะ (Creative & Arts Culture) ที่รายล้อมอยู่รอบโครงการอีกด้วย

ทั้งนี้โครงการวงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ ถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทย ที่ผสมผสานธรรมชาติเข้ากับพื้นที่โครงการได้อย่างเป็นหนึ่งเดียว โดยภายในโครงการสามารถเก็บต้นไม้เดิมซึ่งมีขนาดใหญ่ได้มากกว่า 200 ต้น และมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่โครงการ ในขณะที่อาคารของโครงการจะมาในรูปแบบชั้นเดียว ลดการใช้คอนกรีตหรือวัสดุสังเคราะห์ เน้นการใช้วัสดุธรรมชาติในการก่อสร้าง อาทิ หญ้าแฝก ไม้ไผ่ เป็นต้น ห้อมล้อมด้วยทางเดินที่ถูกออกแบบให้เป็นพื้นทราย บนพื้นที่มากกว่า 10,000 ตร.ม. สอดคล้องกับแนวคิด แหงนหน้าเห็นท้องฟ้า ระดับสายตาเห็นต้นไม้ ก้าวเท้าเหยียบผืนทราย เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับธรรมชาติของหาดวงศ์อมาตย์อย่างแท้จริงในทุกพื้นที่ของโครงการกว่า 13.5 ไร่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ พัทยาที่คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน

นายพงศ์ กล่าวต่อว่า โครงการให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยได้มีการจัดทำสารบัญต้นไม้เพื่อให้ความรู้กับผู้มาใช้บริการ เพราะเราต้องการเป็นมากกว่าแค่ศูนย์การค้า แต่เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ชุมชน และผู้คนท้องถิ่น เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ โครงการได้จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Beach Park หรือสวนสาธารณะริมหาด
เพื่อให้ผู้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และใช้เวลาร่วมกันผ่านหลากหลายร้านพันธมิตรของโครงการ อาทิ ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยม ทั้งไทยและนานาชาติ ร้านคาเฟ่ ร้านของที่ระลึก ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น

“กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ จะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งรวมทั้งคนในพื้นที่ คนกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่พัทยา และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว รวมถึงกลุ่มคู่รัก กลุ่มเพื่อน โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างน้อย 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดการณ์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวเมืองพัทยาที่อยู่ที่เกือบ 16 ล้านคน ในปี 2562 โดยคาดหวังให้โครงการนี้เป็นจุดมุ่งหมายใหม่ที่แตกต่างและพร้อมนำเสนออีกแง่มุมของพัทยาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน สุนทรียทางศิลป์ ดนตรี กิจกรรมกลางแจ้งให้ทุกคนได้สัมผัส ซึ่งโครงการเองยังมุ่งที่จะช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มให้แก่เมืองพัทยา และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยผ่านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อรองรับการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวของโลก ตามโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐอีกด้วย” พงศ์ กล่าวเสริม

สำหรับโครงการวงศ์อมาตย์ บีช วิลเลจ แบ่งการเปิดบริการออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกจะเปิดให้บริการในช่วงสิ้นปี 2565 และพร้อมเปิดให้บริการในเฟสที่สองในช่วงปี 2566 ทั้งนี้ โครงการตั้งอยู่ที่หาดวงศ์อมาตย์ ห่างจากมอเตอร์เวย์ 4 กม. สามารถเดินทางเข้ามาได้จากทั้งซอยนาเกลือ 16 และซอยนาเกลือ 18