กรุงศรีคอนซูเมอร์ เผย “เบบี้บูมเมอร์” ติดใจช้อปออนไลน์-ใช้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งกระฉูด

  • ชี้คนไทยสุดอั้นรัฐล็อกดาวน์ ปัดฝุ่นเปิดห้างขาช้อปรูดปื๊ดไม่ยั้ง
  • ดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเดือน มิ.ย.พุ่งพรวด
  • ระบุโควิด-19 เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คนแห่ซื้อสินค้าผ่านช้อปปี้-ลาซาด้า เพิ่ม 1 เท่าตัว
  • สั่งฟู้ดแพนด้า-แก๊บ พุ่ง 2-3 เท่าตัว

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรีคอนซูเมอร์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทันทีที่รัฐบาลปลดล็อกดาวน์ให้ห้างสรรสินค้า และศูนย์การค้า เปิดให้บริการปกติ มีลูกค้าบัตรเครดิตในเครือของกรุงศรี จับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าในห้างสรรสินค้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในเดือนมิ.ย.ปรับขึ้นแรง ช่วยพยุงให้ช่วงครึ่งปีแรกมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งหมดที่ 145,000 ล้านบาท  ปรับลดลง 15 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าตลอดทั้งปีนี้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะอยู่ที่ 300,000-310,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10-15 %

“ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลล็อกดาวน์สั่งปิดศูนย์การค้า และห้างสรรสินค้า ทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตตกอยู่ในอาการอั้น ไม่ได้ช้อปปิ้งซื้อสินค้า และจับจ่ายใช้สอย นับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.เป็นต้นมา ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปรับตัวลดลงแรงมาก แต่เมื่อรัฐบาลทะยอยปลดล็อกดาวน์ให้ห้างสรรสินค้ากลับมาเปิดให้บริการ ลูกค้าแห่ไปซื้อสินค้าจนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นแรง และนับจากนี้ต้องตามความร้อนแรงของการช้อปปิ้ง จะยาวนานต่อเนื่องไปนานแค่ไหน”

สำหรับโควิด-19 ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนอย่างมากอีกทั้งเป็นตัวเร่งการลดใช้เงินสด มาใช้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งมากขึ้น และมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น เห็นได้จากการใช้บัตรเครดิตสั่งซื้อสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ อาทิ ช้อปปี้ และลาซาด้า มียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว การสั่งซื้ออาหารเดลิเวอรี่ผ่านฟู้ดแพนด้า หรือแก๊บ เพิ่มขึ้นสูงถึง 2-3 เท่าตัว และสมัครใช้บริการเน็ตฟิก เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว

นอกจากในช่วงเกิดโควิด-19 คนในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ที่เกิดในช่วงพ.ศ. 2489-2507 ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างมาก มีการใช้ดิจิทัลแบงก์กิ้งชำระค่าสินค้าและบริการ สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น และเมื่อรัฐบาลทะยอยปลดล็อกดาวน์ คนในกลุ่มนี้ยังมีความถี่ของการชำระเงินด้วยช่องทางดิจิทัล และสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ หรือเรียกได้ยอดใช้จ่ายยังไม่ตก อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ปกติไม่เกิดโควิด-19 การเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ทำได้ค่อนข้างยาก แม้ว่าสถาบันการเงินทุ่มเงินจำนวนมาก คนในกลุ่มนี้ก็ยังใช้เงินสดเหมือนเดิม ไม่ใช้บริการช่องทางดิจิทัลของธนาคาร

นายฐากร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรุงศรี และบริษัทในเครือ มีลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล จำนวน 4 ล้านบัญชี มีวงเงินสินเชื่อ  134,000 ล้านบาท  ซึ่งตามมาตการเยียวยาลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีลูกค้าเข้าโครงการพักชำระหนี้ไปแล้ว 100,000 ราย และเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต่ออายุมาตรการเยียวยาเพิ่มขึ้นอีก ประเมินว่าจะมีลูกค้าเข้าโครงการพักชำระหนี้ทั้งหมด 300,000 ราย

“ในช่วง 6 เดือนแรก กรุงศรีปล่อยสินเชื่อบุคคลไปแล้ว 35,000 ล้านบาท ลดลง 25 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และตลอดทั้งปีเชื่อว่าจะปล่อยสินเชื่อบุคคลได้ 65,000-70,000 ล้านบาท ลดลง 25-30 % ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าลูกค้าสินเชื่อบุคคลและบัตรเครดิตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นเอ็นพีแอลเท่าไหร่ เพราะตามมาตรการเยียวยาให้นับเป็นหนี้ปกติ โครงการเยียวยาจะสิ้นสุดในเดือนต.ค.นี้  จากนั้นจึงจะรู้ว่ายอดเอ็นพีแอลที่แท้จริง” นายฐากร กล่าว