กรมสรรพากร กระตุ้นภาคเอกชน เร่งลงทุนเพื่อรับสิทธิ์ทางภาษีในการหักลดหย่อน 2.5 เท่า

  • ชี้ทำให้ภาคเอกชนประหยัดการเสียภาษี
  • กระตุ้นการลงทุน 110,000 ล้านบาท

นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า อยากจะให้ภาคเอกชนเข้ามาใช้มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ ที่ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรได้ 2.5 เท่า ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ตั้งแต่ 1 ม.ค. 63 – 31 ธ.ค.63 เพราะจะทำให้ภาคเอกชนที่ลงทุนในปีนี้สามารถประหยัดการเสียภาษีได้มากกว่าปกติ

“โดยกรมสรรพากรคาดว่าการออกมาตรการดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนเพิ่มในภาคเอกชนกว่า 110,000 ล้านบาท อีกทั้งยังช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น”

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการลงทุนดังกล่าวเมื่อต้นปีนี้ โดยกำหนดให้บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่ายจากการลงทุนในเครื่องจักร ในการคำนวณกำไรสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เป็นจำนวน 2.5 เท่า แยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จำนวน 1.5 เท่า (ของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง) เป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนที่ 2 จำนวน 1 เท่า เป็นการ หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคา ทั้งนี้ไม่รวมถึงกรณีที่เป็นบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการให้เช่า แบบลีสซิ่ง และลงทุนในเครื่องจักร เพื่อให้เช่าเครื่องจักรนั้นแบบลีสซิ่ง

ส่วนผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ กรณีที่ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักร มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1. ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน 2. หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาได้และอยู่ในสภาพพร้อมใช้การได้ภายใน 31 ธันวาคม นี้ 3. อยู่ในราชอาณาจักร 4. ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร ฉบับอื่น ๆ ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลเคยอนุมัติมาตรการส่งเสริมการลงทุนด้วยการให้ภาคเอกชนสามารถนำรายจ่ายเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรมาหักลดหย่อนภาษีได้มากกว่าปกติ โดยในปี 2560 กำหนดให้นำรายจ่ายเพื่อการลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ซึ่งปรากฏว่ามีเอกชนใช้สิทธิ์ 15,000 ราย คิดเป็นวงเงินลงทุน 280,000 ล้านบาท