กรมวิชาการเกษตร เร่งวิจัยทดสอบสารและเทคโนโลยีปราบโรคใบร่วงยางพารา

  • “มนัญญา” สั่งกรมวิชาการเกษตร เร่งบูรณาการแก้ปัญหาโรคใบร่วงยางพารา
  • ช่วยชาวสวนยางภาคใต้ นักวิจัยจัดทัพลงพื้นที่ทดสอบชนิดสารป้องกันกำจัดเชื้อราสาเหตุโรค
  • พร้อมเทคโนโลยีและวิธีพ่นสารที่มีประสิทธิภาพ

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจากนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งติดตามและแก้ไขปัญหา โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราซึ่งพบมากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยปัจจุบันพบการระบาดเกือบ 70 จังหวัดและมีพื้นที่ได้รับความเสียหายมากกว่าล้านไร่และมีแนวโน้มพบพื้นที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อรายได้เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราโดยตรง เนื่องจากโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราทำให้ใบยางพาราเกิดอาการร่วงอย่างรุนแรง การเจริญเติบโตของต้นยางพาราหยุดชะงักและผลผลิตยางพาราลดลง

ดังนั้นเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราตามนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กรมวิชาการเกษตรจึงได้บูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้แก่ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กรมส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผู้แทนเกษตรกรชาวสวนยางและสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่โรคระบาด ผู้แทนสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ผู้แทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้แทนภาคเอกชนเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการโรคที่เหมาะสมและประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในส่วนบทบาทของกรมวิชาการเกษตรซึ่งมีภารกิจวิจัยสารและเทคโนโลยีการจัดการศัตรูพืชที่สำคัญของประเทศไทยได้มอบหมายให้สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชดำเนินการทดสอบหาวิธีการที่เหมาะสมในการป้องกันกำจัดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดย ได้แบ่งงานวิจัยออกเป็น 2 ส่วนคือ งานวิจัยด้านสาเหตุของการเกิดโรค และงานวิจัยด้านการป้องกันกำจัดเพื่อประเมินประสิทธิภาพวิธีการที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ชนิดของสารเคมี และชนิดของเครื่องพ่นสาร ที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยต่อการนำไปใช้แนะนำให้กับเกษตรกรต่อไป

จากการศึกษาของกลุ่มวิจัยโรคพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช พบว่าโรคใบร่วงยางพาราชนิดใหม่เกิดจากเชื้อรา Pestalotiopsis sp. หรือเชื้อรา Colletotrichum sp. ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้โดยการพัดไปตามกระแสลม และน้ำฝน รวมถึงการเคลื่อนย้ายต้นพันธุ์หรือวัสดุปลูกจากแปลงที่เกิดโรค งานวิจัยด้านการป้องกันกำจัดจึงแบ่งการทดลองออกเป็น 2 ส่วนคือ การทดสอบหาชนิดของสารป้องกันกำจัดเชื้อราที่มีประสิทธิภาพ เบื้องต้นพบว่าสารคาร์เบนดาซิม 50% SC สารไดฟีโนโคลนาโซล+โพรพิโคนาโซล 15% + 15% EC สารโพรคลอราซ 45% EW เป็นสารที่มีประสิทธิภาพดีให้ผลการทดลองที่สอดคล้องกันทั้งในห้องปฏิบัติการและแปลงทดสอบในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา และการทดสอบเทคโนโลยีการพ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช ด้วยเครื่องพ่นสารชนิดต่างๆ เบื้องต้นจากผลการทดลองพบว่าการพ่นสารด้วยเครื่องพ่นสารแบบใช้แรงลมขนาดใหญ่ ให้ผลในการควบคุมโรคใบร่วงได้ดีที่สุด รองลงมาได้แก่กรรมวิธีที่พ่นด้วยอากาศยานไร้คนขับ และกรรมวิธีการพ่นด้วยเครื่องยนต์พ่นสารแบบแรงดันน้ำสูงชนิดลากสาย

“ที่ผ่านมาคณะนักวิจัยจากสำนักวิจัยพัฒนาการอารักพืช ได้ลงพื้นที่เพื่อนำผลงานวิจัยและเทคโนโลยีไปทดสอบในสวนยางพาราของเกษตรกรที่พบปัญหาการระบาดของโรคใบร่วงยางพาราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้ขณะนี้จะได้ชนิดสารป้องกันกำจัด เทคโนโลยีการพ่นสาร และเครื่องพ่นสารที่เหมาะสมต่อการป้องกันกำจัดโรคใบร่วงยางพาราแล้วก็ตาม แต่คณะนักวิจัยเห็นตรงกันว่าควรจะมีการทดสอบเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 แปลง เพื่อให้ได้ข้อมูลยืนยันชนิดของสารป้องกันกำจัดโรคพืช ชนิดของเครื่องพ่นสารและอัตราพ่นที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้เป็นคำแนะนำแก้ไขปัญหาการระบาดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”