กรมรางฯ ออก 5 มาตรการคุมบริการรถไฟ-รถไฟฟ้า หลัง ศบค.ขยับเวลาเคอร์ฟิว

  • กรมรางออกมาตรการ 5 ข้อ สำหรับผู้ใช้บริการระบบราง
  • ชี้ให้สอดรับการให้บริการในวันที่ 17 พ.ค.หลังรัฐลดเวลาเคอร์ฟิว
  • ย้ำต้องปฎิบัติตามมาตราป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการ ขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ขร.ได้ออกประกาศกรมการขนส่งทางรางเรื่องมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) (ฉบับที่ 4) ตามที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26มีนาคม 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวออกไปจนถึง 31 ..63 

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดเป็นการทั่วไป และข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย (ฉบับที่ 7) ลงวันที่15 ..63 เพื่อผ่อนคลายการบังคับใช้บางมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 เพิ่มเติมจากที่เคยผ่อนคลายไว้แล้วเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน ภายใต้เงื่อนไขว่ายังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคและคำแนะนำของทางราชการต่อไปโดยเคร่งครัด และห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา23.00.- 04.00 .ของวันรุ่งขึ้น 

กรมการขนส่งทางรางจึงประกาศมาตรการพึงปฏิบัติ  การจัดการระบบขนส่งทางราง เพื่อขอความร่วมมือผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ทั้งรถไฟและรถไฟฟ้าปฏิบัติเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

 1.ดำเนินการเปิดให้บริการให้สอดคล้องตามข้อกำหนดโดยสมควรเปิดให้บริการเดินระบบรถไฟและรถไฟฟ้าระหว่างวันภายหลังเวลา 04.00 .โดยปิดให้บริการ  สถานีปลายทางในเวลา 22.30 .โดยประมาณ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสารให้สามารถกลับถึงเคหสถานก่อนเวลา 23.00 .

​2.บริหารจัดการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้เพียงพอสอดคล้องกับปริมาณความต้องการเดินทางในแต่ละวัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ควบคู่กับการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ภายในสถานีและในขบวนรถอย่างเคร่งครัด

​3.เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาสภาพรถ สภาพทาง และอุปกรณ์ เพื่อมิให้เกิดความขัดข้องในการบริการและให้มีแผนปฏิบัติการรองรับกรณีเกิดเหตุขัดข้องหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งประสานแจ้งกรมการขนส่งทางรางทันทีเพื่อบูรณาการการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วทันการณ์

​4.เพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข้อพึงปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร และแจ้งให้ทราบ กรณีมีเหตุขัดข้องหรือสถานการณ์ฉุกเฉินอันก่อให้เกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกในการใช้บริการ เพื่อประกอบการวางแผนการเดินทางและการเผื่อเวลาในการเดินทาง

​5.เพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัส COVID – 19 ของผู้ปฏิบัติงานภายในสถานีและขบวนรถที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้โดยสารจำนวนมาก จะต้องสวมหน้ากากอนามัยถุงมือ หรืออุปกรณ์ป้องกันตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งจัดทำทะเบียนข้อมูลผู้ปฏิบัติงานในแต่ละวันและช่วงเวลา สำหรับกรณีจำเป็นต้องมีการสอบสวนโรค

ทั้งนี้การดำเนินการให้ถือปฏิบัติตั้งแต่วันที่17พฤษภาคม2563เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง