กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนะ 4 วิธีเอาตัวรอด “โจรไซเบอร์”

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแนะ 4 วิธีเอาตัวรอด “โจรไซเบอร์”

.ก่อนใช้งานเว็บไซต์-แอปพลิเคชันเช็คให้ชัวร์ว่าถูกต้อง
.ไม่กดลิงค์-เอสเอ็มเอส-แอปฯที่ไม่รู้จักหรือได้รับแชร์มา
.ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวนและไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลคนไม่รู้จัก

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากธุรกิจและประชาชนหลายรายว่า มีมิจฉาชีพโทรศัพท์ หรือส่งข้อความไปหา โดยแอบอ้างชื่อกรม เพื่อขอตรวจสอบธุรกิจหรือให้ปรับปรุงข้อมูลนิติบุคคล หรืออ้างจะให้เงินช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยให้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางแอปพลิเคชัน Line หรือเว็บไซต์ ที่สร้างปลอมขึ้นมาให้หลงเชื่อว่าเป็นช่องทางการติดต่อกับกรม รวมถึงหลอกลวงให้ประชาชน ดาวน์โหลดจนนำไปสู่การโจรกรรมทางออนไลน์ และสูญเสียทรัพย์สินนั้น กรมมีข้อแนะนำในการป้องกันตัวให้รอดพ้นจากการโจรกรรมข้อมูล 4 วิธี ดังนี้
1.ก่อนเข้าใช้งานเว็บไซต์ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า URL ของเว็บไซต์นั้น สะกดถูกต้องตรงกับหน่วยงานที่จะติดต่อ ต้องไม่มีสระขาด หรือเกิน URL โดยเว็บไซต์ของกรมที่ถูกต้องคือ www.dbd.go.th เท่านั้น และการพิมพ์ตัวอักษรด้วยตนเองแทนการกดผ่านลิ้งค์ที่ได้รับต่อมา จะเป็นวิธีการใช้งานที่ปลอดภัยที่สุด


2.ไม่กดลิ้งค์/SMS/โหลดแอปพลิชัน ที่ไม่รู้จักหรือได้รับแชร์มาจากที่ต่างๆ เพราะอาจมีกลโกงจากมิจฉาชีพแฝงอยู่ เพื่อหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านลิ้งค์ 3.ไม่หลงเชื่อคำเชิญชวน หากได้รับโทรศัพท์ หรือการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่ามาจากกรม โดยไม่ได้มีธุรกรรม ที่เกี่ยวข้องกันมาก่อน หรือเสนอเรื่องต่างๆ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ขอให้พึงระวังว่าเป็นมิจฉาชีพ


และ 4.การโจรกรรมทรัพย์สินผ่านออนไลน์ จะต้องใช้ข้อมูลที่ระบุได้ถึงตัวบุคคล ดังนั้น ต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน อีเมล์ วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ ข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น รวมทั้ง ต้องปกปิดข้อมูลดังกล่าวกับบุคคลที่ไม่รู้จัก และไม่นำขึ้นบนโซเชียล มีเดีย เพราะจะทำให้คนทั่วไปเข้าถึงได้


“ปัจจุบันมิจฉาชีพเปลี่ยนกลโกงให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น และยังใช้ชื่อหน่วยงานภาครัฐ มาหลอกกลวงให้เชื่อใจ ประชาชนต้องระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน โดยกรมกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับมิจฉาชีพที่ได้แอบอ้างชื่อและปลอมโลโก้กรม เพราะถือเป็นใหญ่และยอมไม่ได้ จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะสร้างความเสียหายกับธุรกิจและประชาชน หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และ FB: DBD Public Relations”