“กรมป่าไม้” ลั่นควบคุมการเผาพื้นที่เกษตรใกล้ป่าไม้

  • ย้ำต้องรายงานนายอำเภอและป่าไม้ท้องที่ก่อนทุกครั้ง
  • เฝ้าระวังการลุกลามสู่ผืนป่า
  • ตามนโยบายรัฐในการลดฝุ่นละออง PM 2.5

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ทุกวันที่ 24 ก.พ.ของทุกปี เป็น “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2524 กำหนดให้กรมป่าไม้ ซึ่งขณะนั้นสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมป่าไม้ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย เสนอมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าและรณรงค์ให้ประชาชนและเกษตรกรงดจุดไฟเผาป่า เพื่อลดควันไฟที่เกิดจากการเผาป่า สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยราชการ องค์กรเอกชน ถึงอันตรายและผลกระทบของควันที่เกิดจากไฟป่า รวมถึงป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้จากการจุดไฟเผาป่า

นายอรรถพล กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่าจังหวัดลำปางใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับจุดความร้อน (Hot Spot) ที่ติดตั้งกับดาวเทียม เพื่อให้ทราบพิกัดที่มีไฟป่า รวมทั้งสามารถระดมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้าพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ ปฏิบัติการแบบ “รับแจ้งเหตุเร็ว สั่งการรวดเร็ว และเข้าดับไฟรวดเร็ว” แผนเผชิญเหตุดับไฟป่ามี 3 ระดับ คือ แผนดับไฟป่าตามสถานการณ์ปกติ ซึ่งเป็นไฟป่าเพิ่งเกิด ตรวจพบทันที หรือลุกลามไม่เกิน 100 ไร่ ซึ่งกรมป่าไม้ จะร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร และเครือข่ายชุมชนในการปฏิบัติงาน แผนดับป่าในสถานการณ์รุนแรง ซึ่งไฟไหม้ลามเกิน 100 ไร่ หรือปฏิบัติการตามแผนที่ 1 จนเกิน 3 วันแล้ว จะตั้งศูนย์อำนวยการดับไฟป่า โดยมีนายอำเภอทำหน้าที่บัญชาการ รวมทั้งจะส่งกำลังพล เครื่องมือ และอากาศยานเข้ามาควบคุมเพลิง และแผนดับไฟป่าในสถานการณ์วิกฤติ ซึ่งเกิดไฟป่าแล้วใช้แผนที่ 2 ควบคุมไม่ได้เกิน 15 วัน จะตั้งศูนย์อำนวยการดับไฟป่า โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่อำนวยการ พร้อมระดมกำลังพล อุปกรณ์ เทคโนโลยีต่าง ๆ จากทุกภาคส่วนเข้ามาแก้ไขภาวะวิกฤติอย่างเร็วที่สุด

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบจำนวนจุดความร้อนฤดูแล้งปี 2563 มากกว่าปี 2562 ซึ่งได้มีมาตรการจัดระเบียบการเผา หากจะมีการเผาพื้นที่เกษตรใกล้ป่าไม้จะต้องแจ้งนายอำเภอและเจ้าหน้าที่ป่าไม้พื้นที่ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าสู่ผืนป่า รวมถึงไม่ให้มีการเผาพร้อม ๆ กันจนมีฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินเกณฑ์มาตรฐาน ขณะนี้บางจังหวัดภาคเหนือประกาศงดเผาในที่โล่งทุกชนิด เมื่อเข้าใกล้ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่ ซึ่งจะมีการลักลอบเผาป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยกันมากทุกปี จะประกาศงดเผาทั้ง 9 จังหวัด บรรเทาผลกระทบจากปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 การคมนาคม การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ ที่สำคัญจะเป็นการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศของผืนป่าทั่วประเทศ