- น้ำมันกลุ่มเบนซินยอดใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.23 ล้านลิตร/วัน ลดลง 8.5%
- น้ำมัน อี85 ยอดใช้ลดลงมากที่สุด 28.6%
- ส่วนการกลุ่มดีเซลยอดใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.93 ล้านลิตร/วัน ลดลง 5.0%
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันในรอบ 5 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) ว่า มีปริมาณที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 13.4% โดยน้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.23 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 8.5% ในส่วนนี้ ประกอบไปด้วย เบนซินมีการใช้ลดลงเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.78 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 21.2% และกลุ่มแก๊สโซฮอล์มียอดใช้เฉลี่ย 28.45 ล้านลิตร/วัน คิดเป็น 8.1% โดยในส่วนของ อี85 ลดลงมากที่สุด 28.6% เฉลี่ยมียอดใช้ 0.92 ล้านลิตร/วัน รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้เฉลี่ย 8.00 ล้านลิตร/วัน ลดลง 16.8% ถัดมาเป็น อี 20 มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.94 ล้านลิตร/วัน ลดลง 7.3% และแก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดมียอดใช้ 13.59 ล้านลิตร/วัน คิดเป็นอัตราลดลง 0.4%
ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการของภาครัฐที่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม การทำงานที่บ้าน และการลดการเดินทางข้ามจังหวัด ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับในส่วนการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.93 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 5.0% โดย บี7 มีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 47.64 ล้านลิตร/วัน ลดลง 27.1% , บี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 10.21 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค. 2562) และ บี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ย 5.36 ล้านลิตร/วัน (เริ่มมีการจำหน่ายตั้งแต่เดือน ก.ค. 2561)
น.ส.นันธิกา กล่าวว่า ในส่วนการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 11.40 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 43.3% เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ไปจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63
การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.10 ล้านกก./วัน ลดลง 16.2% แยกเป็นภาคขนส่ง มีปริมาณใช้ 2.02 ล้านกก./วัน ลดลง 31% ภาคปิโตรเคมียอดใช้ 6.03 ล้านกก./วัน ลดลง 19.7% ภาคอุตสาหกรรมยอดใช้ 1.66 ล้านกก./วัน ลดลง 8.5% และภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ 5.39 ล้านกก./วัน ลดลง 6.7% การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.10 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 27.5%
ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีปริมาณรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 906,572 บาร์เรล/วัน ลดลง 12.8% โดยในส่วนของการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 878,802 บาร์เรล/วัน ลดลง 8.6% มูลค่า 42,032 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากในเดือน พ.ค. 63 มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ รวมถึงมาตรการ Lock down ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศลดลง ส่วนการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป และ LPG นำเข้าเฉลี่ยอยู่ที่ 27,770 บาร์เรล/วัน ลดลง 64.8% คิดเป็นมูลค่า 1,405 ล้านบาท/เดือน
ด้านการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกเบนซิน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและก๊าด และ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 205,745 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 19.5% คิดเป็นมูลค่า 9,084 ล้านบาท/เดือน
น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เปิดเผยว่า ยอดขายน้ำมันของโออาร์ในช่วงล็อกดาวน์มีทิศทางที่ลดลง แต่ล่าสุดช่วงเดือน มิ.ย. เริ่มขยับขึ้นใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยจากที่รัฐบาลมีนโยบายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว ก็คาดว่ายอดใช้น้ำมันจะกลับมาดีขึ้น ส่วนยอดขายทั้งปีจะลดลงมากน้อยเพียงใด ก็ต้องรอดูสภาวะเศรษฐกิจไทยว่าจะพื้นตัวขนาดไหน ซึ่งก็คาดหวังว่าจะไม่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นระลอกที่ 2 ทั้งนี้ยอดขายน้ำมันของโออาร์ ในปีที่ผ่านมา มียอดขายเฉลี่ยราว 4.6 แสนลิตร/เดือน
