กรมธนารักษ์ ลุยแจกสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย-ที่ดินทำมาหากิน

  • ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของรัฐบาล
  • คิดค่าเช่า25 -75 สตางค์ต่อตารางวาต่อเดือน
  • พื้นที่เกษตร ค่าเช่า 20 บาทต่อไร่

วันที่ 7 ต.ค.2563 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วยนายธำรงค์ ทองตัน ที่ปรึกษาด้านพัฒนาการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ และนายสมมาตร มณีหยัน ผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีการสำรวจและฐานข้อมูลที่ราชพัสดุ ลงพื้นที่มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุตามนโยบายเรื่องลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” โดยมีนายวิรัช เกตุนวม ธนารักษ์พื้นที่นครสวรรค์ นายนิพนธ์ เลิศล้ำ ธนารักษ์พื้นที่พิจิตร นายสามารถ เมืองเงิน ธนารักษ์พื้นที่กำแพงเพชร และนางกาญจนา บุญญาพงษ์พันธ์ ธนารักษ์พื้นที่อุทัยธานี ให้การต้อนรับ

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มามอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุของจังหวัดนครสวรรค์ โดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง เป็นจังหวัดที่ 11 ซึ่งการจัดพิธีฯของจังหวัดนครสวรรค์ในครั้งนี้เป็นการมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุรอบที่สอง ซึ่งในรอบแรกนั้นได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ให้เกียรติเข้าร่วมมอบสัญญาเช่าฯ ไปเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2563 ที่ผ่านมา

นายยุทธนา กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการในวันนี้ ได้นำที่ดินราชพัสดุแปลงเขตประกาศหวงห้ามที่ดินฯ พ.ศ.2483 ตำบลหนองหลวง อำเภอ ท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ นำมาจัดให้ราษฎรผู้ครอบครองเช่าที่ราชพัสดุจำนวน 960 ราย เนื้อที่ประมาณ 2,456 – 1 – 88 ไร่ โดยเช่าเป็นที่อยู่อาศัยในอัตราค่าเช่า 25 สตางค์ ถึง 75 สตางค์ต่อตารางวา ต่อเดือน และเช่าเพื่อประกอบการเกษตร ในอัตราค่าเช่า 20 บาท ต่อไร่ ต่อปี ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากจังหวัดนครสวรรค์เป็นอย่างดียิ่ง โดยในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ นางจิตรา หมีทอง ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ นายสมบุญ วงศ์วัชรานนท์ นายอำเภอท่าตะโก มาร่วมมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุด้วย จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ทั้งนี้ การมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุดังกล่าว จะเป็นการให้สิทธิการเช่าเพื่ออยู่อาศัยและประกอบการเกษตรให้แก่ราษฎรที่เข้าครอบครองที่ราชพัสดุโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอยู่ก่อนวันที่ 4 ต.ค. 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์ ถือเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิทำกินและที่อยู่อาศัยให้แก่ราษฎร เพื่อให้ราษฎรเข้าสู่ระบบการเป็นผู้เช่ากับกรมธนารักษ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อันเป็นการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ

 “โครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ด้วยดี เป็นผลมาจากความร่วมมือของทุกคนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและที่สำคัญคือ ภาคประชาชนผู้ถือครองที่ราชพัสดุ อันจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของราษฎรที่ดียิ่งขึ้น”