กรมธนารักษ์ ยกที่ดิน 141 ไร่ ให้กระทรวงสาธารณสุข ปั้นภูเก็ตเป็นศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก

  • คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี
  • ลุยสร้างคอนโดข้าราชการ เฟส 2

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ กรมธนารักษ์จะทำพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ประโยชน์ในที่ดิน ที่ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เนื้อที่กว่า 141 ไร่ เพื่อดำเนินโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก( Phuket Medical Tourism into a World Class Medical and Wellness Tourist Destination) ใช้เงินลงทุนมูลค่า 4,000 ล้านบาท  เพื่อสร้างให้ภูเก็ตเป็นศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ระดับโลก   โดยเป็นการมอบให้กระทรวงสาธารณสุขใช้ประโยชน์ในโครงการนี้โดยที่กรมไม่ติดค่าตอบแทน  ซึ่งมูลค่าที่ดินแปลงนี้น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการนี้จะมีการสร้างศูนย์การแพทย์และการสาธารณสุขแบบครบวงจร (International Health Plaza) ,ศูนย์อภิบาลสุขภาพคนสูงอายุนานาชาติ ( Premium Long Term Care) ,ศูนย์ใจรักษ์ ( hospice Care) และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร (Rehabilitation Center)

“โครงการนี้ กระทรวงสาธารณะสุขจะเป็นผู้ลงทุน คาดว่าในระยะเริ่มแรกจะลงทุนราว 2,000 ล้านบาท และน่าจะเป็นศูนย์สุขภาพเพื่อการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของภูเก็ตได้มากขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนในภูเก็ต ในการทำโครงการนี้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปี”

นอกจากนี้ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ กรมธนารักษ์ จะลงนามในความร่วมมือ(เอ็มโอยู) กับกองทัพบก เพื่อจัดสร้างสวนเบญจกิติ ระยะ 2 และ 3 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนากรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะเป็นสวนป่าใจกลางกรุงเทพ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในมิ.ย. 2564 ซึ่งจะมีต้นไม้ในสวนป่านี้มากกว่าหมื่นต้น นอกจากนั้นกรมธนารักษ์ ยังมีโครงการจัดสร้างหอชมเมือง บนพื้นที่สวนเบญจกิตินี้ด้วย ซึ่งจะเป็นหอชมเมืองที่จะสร้างให้ดีกว่าหอชมเมืองของโตเกียว ดูไบ หรือเซี่ยงไฮ้ โดยเงินลงทุนอาจจะมาจากการรับบริจาค

ทั้งนี้กรมยังได้ปรับปรุงเงื่อนไขโครงการสวัสดิการที่พักอาศัยข้าราชการ จากเดิมให้สิทธิ์เฉพาะข้าราชการพลเรือนสามัญที่จะเข้าจองซื้อ โดยเพิ่มเติมให้ข้าราชการประเภทอื่นเข้าจองซื้อได้ อาทิ ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการท้องถิ่น เพื่อเปิดกว้างให้ข้าราชการทุกกลุ่มมีที่พักอาศัยราคาถูกเป็นของตนเอง โดยกรมฯจะนำที่ราชพัสดุอีกจำนวน 9 พื้นที่ มาดำเนินการก่อสร้างในเฟสที่สอง ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครนายก สงขลา สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงราย อุบลราชธานี อุดรธานี และ มหาสารคาม

“โครงการสวัสดิการที่พักอาศัยข้าราชการจะก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมจำนวนประมาณ 76 ห้องต่อโครงการ ขนาดต่อห้องประมาณ 40 ตารางเมตร ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถขอสินเชื่อได้จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน”

สำหรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องมีสถานที่ทำงานหรือภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ของโครงการ แต่ถ้าผู้เข้าร่วมโครงการมีสถานที่ทำงานหรือมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่โครงการฯจะได้รับพิจารณาก่อนเป็นลำดับแรกและจะได้รับสิทธิ์การเช่า 30 ปี