กรมทางหลวงแจงของบสร้างมอเตอร์เวย์ “บางปะอิน-นครราชสีมา” เพิ่ม 6.75 พันล้านบาท เหตุปรับแบบให้สอดคล้องกับสภาพชั้นดิน-ชง ครม.ก.ย.นี้-ปี 67 เปิดให้ประชาชนใช้ฟรี

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า  กรณีโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย บางปะอิน-นครราชสีมา หรือ มอเตอร์เวย์ (M6) มีการปรับแบบและปรับวงเงินค่าก่อสร้างว่า  โครงการดังกล่าวกรมทางหลวง ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาให้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (หรือ มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา พร้อมทั้งการออกแบบเบื้องต้น (Preliminary Design) แล้วเสร็จปี 47 ต่อมากรมทางหลวงได้ว่าจ้างที่ปรึกษา เพื่อดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียด (Detailed Design) แล้วเสร็จเมื่อปี 51 หลังจากนั้น คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 58 อนุมัติให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ในกรอบวงเงิน 84,600 ล้านบาท 

ทั้งนี้ในการก่อสร้างงานโยธาแบ่งเป็น 40 ตอน ซึ่งได้เริ่มต้นสัญญาก่อสร้างในช่วงปี 59 – 60 ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 24 ตอน ส่วนที่เหลือ 16 ตอน ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ยังมีปัญหาอุปสรรคจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงแบบก่อสร้างตามสัญญาให้เหมาะสม ทำให้มีค่างานเพิ่มขึ้นประมาณ 6,755 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อปี 58              

นายสราวุธ  กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่โครงการมีปัญหาและทำให้โครงการเกิดความล่าช้ามี 4 ประเด็นหลักคือ  1.สภาพพื้นที่จริงที่เริ่มทำการก่อสร้างในปี 60 ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยสำรวจออกแบบไว้ตั้งแต่ปี  51, 2. ได้ปรับปรุงรูปแบบทางวิศวกรรมให้สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพ และ สภาพชั้นดินทางธรณีวิทยา ของพื้นที่ก่อสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงของตัวโครงสร้างของมอเตอร์เวย์  และประชาชนเดินทางใช้งานได้อย่างปลอดภัย

3.  ปรับรูปแบบให้เหมาะสมสอดคล้องกับโครงสร้างงานสาธารณูปโภค ต่างๆ ข้อจำกัด เงื่อนไข หรือความจำเป็นของหน่วยงานอื่น ที่มอเตอร์เวย์ตัดผ่าน เช่น การยกระดับความสูงเพิ่มขึ้นมอเตอร์เวย์ส่วนที่ข้ามคลองชลประทาน หรือการสร้างกำแพงครอบมอเตอร์เวย์ในช่วงที่ผ่านเรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

และ 4.  การปรับรูปแบบการก่อสร้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ และให้สอดคล้องกับโครงข่ายถนนที่ประชาชนใช้ทางในปัจจุบัน เช่น การก่อสร้างทางขนานตามแนวมอเตอร์เวย์ในบางช่วง หรือก่อสร้างทางลอดเพิ่มขึ้น เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าออกพื้นที่ได้สะดวก

อย่างไรก็ตามกรมทางหลวงได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งในด้านวิศวกรรมงานทางและโครงสร้าง และการบริหารสัญญาก่อสร้าง  โดยมีหน่วยงานภายนอกร่วมเป็นคณะกรรมการ  รวมทั้งได้ทำหนังสือหารือระเบียบข้อกฎหมาย และแนวทางการดำเนินการต่อไป กับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส คุ้มค่า ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันกรมทางหลวงได้มีหนังสือเสนอต่อกระทรวงคมนาคม และสำนักงบประมาณ เพื่อพิจารณารายละเอียด ขออนุมัติเพิ่มวงเงินงบประมาณและขยายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพิ่มเติม โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สาย บางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา จำนวน 16 ตอน ซึ่งคาดว่ากระทรวงคมนาคมจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติวงเงินค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น ในเดือนกันยายน 65 นี้  เมื่อได้รับอนุมัติวงเงินเพิ่มเติม กรมทางหลวงจะได้วางแผนเร่งรัดงานก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเริ่มเปิดใช้งานบางส่วนได้ภายในปลายปี 66 และจะทยอยเปิดให้บริการฟรี พร้อมทดสอบระบบการเก็บเงินค่าผ่านทางในปี 67 และเปิดบริการเต็มรูปแบบตลอดสาย ต้นปี 68 ต่อไป