กรมชลฯ เตือน! “พิษณุโลก-ชัยนาท” แม่น้ำยม-เจ้าพระยา น้ำเพิ่มสูง

  • จำเป็นบริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
  • เพราะต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้
  • ระดับน้ำแม่ยม เพื่มสูง เร่งผันน้ำเข้าทุ่งบางระกำ พร้อมใช้แก้มลิงธรรมชาติ

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชฯได้ ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ให้แจ้งเตือนประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอีก 20 เซนติเมตร เนื่องจากกรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ด้วยการตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่งรวม 376 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเต็มความสามารถที่รับได้ในขณะนี้ ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,784 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เนื่องจากบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเกิดภาวะน้ำท่วมขังชุมชนริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำจำนวนมาก ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อน ต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ดังนั้น เพื่อควบคุมผลกระทบดังกล่าวไม่ให้ขยายวงกว้างขึ้นไปอีก

“กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ โดยระดับน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอาจจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 เซนติเมตร ทำให้มีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท, อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี, และอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยปริมาณน้ำจะเอ่อล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมน้ำ นอกคันกั้นน้ำประมาณ 700 ครัวเรือน”

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม จ.สุโขทัย มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง โดยน้ำที่ท่วมขังจะไหลลงสู่แม่น้ำยม ผ่าน อ.เมือง, อ.กงไกรลาศ จ.สฺโขทัย ก่อนจะไหลลงสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้แม่น้ำยมในเขต จ.พิษณุโลก ในพื้นที่อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ส่วนปริมาณน้ำที่มาจากจ.สุโขทัย ผ่านทางแม่น้ำยมสายเก่า จะถูกผันเข้าแก้มลิงทุ่งบางระกำ ซึ่งขณะนี้มีการรับน้ำเข้าพื้นที่ไปแล้ว 202,608 ไร่ ปริมาณน้ำรวม 375.38 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 94 ของความจุ นอกจากนี้ ยังได้ชักน้ำเข้าคลองธรรมชาติ (ฝั่งขวาแม่น้ำยม) เข้าไปเก็บไว้ในคลองต่างๆ รวมไปถึงแก้มลิงขนาดใหญ่ ในเขตอ.บางระกำ ความจุเก็บกักรวม 30.74 ล้าน ลบ.ม ปัจจุบันเก็บกักน้ำได้แล้วรวม 18.70 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุ ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึง

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ทำการปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ในอัตราที่เหมาะสม พร้อมกับทดน้ำไว้บริเวณเหนือเขื่อนผาจุก และเขื่อนนเรศวร เพื่อหน่วงน้ำ เก็บกักน้ำ และลดระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ช่วยเพิ่มการระบายน้ำแม่น้ำยมลงแม่น้ำน่านได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เร่งการระบายน้ำแม่น้ำยมผ่านทางอาคารชลประทานต่าง ๆ  รวมทั้งได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณ สะพานบ้านวังเป็ด อ.บางระกำ 6 เครื่อง เพื่อเร่งการระบายน้ำไว้รองรับน้ำเหนือที่อาจจะลงมาเพิ่มเติมอีกในระยะต่อไป 

“จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง แม่น้ำยม,แม่น้ำยมสายเก่า , คลองเมม-คลองบางแก้ว  ติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา”