กรมชลฯ สั่งเตรียมพร้อมรับมือพายุ “นังกา”ยันเขื่อนลำพระเพลิงยังแข็งแรง

  • ยังคุมการบริหารจัดการน้ำได้
  • เฝ้าระวังแม่น้ำชี-มูล

นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิงว่า ปัจจุบัน (14 ต.ค. 63) มีปริมาณน้ำ 148 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 95% ของความจุอ่างฯ ระดับน้ำทรงตัว กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ด้วยการระบายลงคลองธรรมชาติวันละประมาณ 3.45 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้าย

ทั้งนี้ กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนลำพระเพลิง ได้นำเครื่องจักรและรถแบ็คโฮเข้าไปดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมเสริมกระสอบทรายบริเวณริมตลิ่ง รวมทั้งรายงานสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานท้องถิ่นทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

“กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมด้วยการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทานอย่างสม่ำเสมอ จึงขอยืนยันว่า เขื่อนลำพระเพลิง มีความมั่นคงแข็งแรงดี สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถาณการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด”

นอกจากนี้ จากอิทธิพลของพายุ “นังกา” ในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค.2563 จะส่งผลให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จึงได้สั่งการให้ สำนักงานชลประทานที่ 6-7 รวมทั้งโครงการชลประทานที่ตั้งอยู่ในลุ่มน้ำชี-มูล เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

รวมทั้งปฏิบัติตามข้อสั่งการในการรับมือสถานการณ์น้ำหลาก ด้วยการกำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดเจ้าหน้าที่ในการรับผิดชอบและประสานงาน กำหนดเครื่องจักรเครื่องมือเข้าประจำจุดเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งพิจารณาพร่องน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดและเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน

“ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์พายุ ตลอดจนตรวจสอบอาคารชลประทานให้มั่นคง แข็งแรง สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำทำได้ดีหากเกิดเหตุอุทกภัย”