กรมชลประทาน เกาะติดฝนตกหนักภาคใต้ เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขัง

  • เร่งช่วยเหลือระบายน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
  • เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบ
  • ย้ำโครงการชลประทานเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า หลังเกิดฝนตกหนักถล่มพื้นที่ภาคใต้ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ อาทิ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง และปัตตานี จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณคลองท่าดีเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้เปิดประตูระบายน้ำคลองคูพาย ประตูระบายน้ำคลองป่าเหล้า ประตูระบายน้ำคลองนครน้อย และประตูระบายน้ำคลองไม้เสียบ เร่งระบายน้ำและลดผลกระทบน้ำท่วมที่เกิดขึ้น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

ด้านจังหวัดพัทลุง มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ป่าบอน และ อ.ควนขนุน โครงการชลประทานพัทลุง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 1 เครื่อง บริเวณหมู่ 2 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน เร่งระบายน้ำท่วมขัง

ส่วนที่จังหวัดสงขลา สำนักงานชลประทานที่ 16 ได้ติดตั้งเครื่องจักรกลสูบน้ำส่งกำลังด้วยระบบไฮดรอลิก ขนาดท่อ 42 นิ้ว อัตราการสูบน้ำ 3.5 ลูกบาศก์เมตร์/วินาที จำนวน 1 เครื่อง บริเวณซอยเพชรมาลัย 3 อ.หาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ลงสู่คลองเตย ขณะที่ อ.รัตภูมิ โครงการชลประทานสงขลา ได้เร่งระบายน้ำในคลองรัตภูมิ ด้วยการเปิดบานระบายฝายชะมวงและประตูระบายน้ำรัตภูมิเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากในพื้นที่โดยเร็วเช่นกัน

ที่จังหวัดตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.ย่านตาขาว และ อ.ปะเหลียน โครงการชลประทานตรัง ได้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้าน อ.เมืองตรัง ได้ติดตามโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง หลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่น้ำได้ไหลลงสู่ระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง และระบายลงสู่ทะเลตามลำดับ

และที่จังหวัดปัตตานี ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำปัตตานี ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี โครงการชลประทานปัตตานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณโรงพยาบาลหนองจิก 2 เครื่อง โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 1 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จํานวน 3 เครื่อง และเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาด 36 นิ้ว อีก 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่บ้านเขาตูม อ.ยะรัง รวมทั้งติดตามการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนปัตตานีอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 18-20 ธ.ค.นี้ ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กรมชลประทาน ได้กำชับให้โครงการชลประทานในพื้นที่ เฝ้าระวังสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานแจ้งเตือนประชาชน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก พร้อมกันนี้ให้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อให้สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที