กรมชลประทาน เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมทั่วประเทศ ย้ำ!เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง

  • เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะหมดฝน
  • เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
  • ลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของรัฐบาล

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกชุกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัยหลายจังหวัด กรมชลประทาน ได้เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด 

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ที่จังหวัดสุโขทัย ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำแม่มอก มีปริมาณน้ำไหลผ่านอาคารระบายน้ำล้น (Spillway)ในอัตรา 91.73 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง  โครงการชลประทานสุโขทัย  ได้ทำการระบายน้ำผ่านท่อระบายน้ำ ลงสู่ลำน้ำแม่มอกในอัตรารวม 95.42 ลบ.ม./วินาที  พร้อมเร่งระบายน้ำในลำคลองแม่มอก โดยเปิดท่อระบายน้ำเพื่อระบายน้ำไปยังพื้นที่ด้านท้าย รวมทั้งเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที 

จังหวัดพิษณุโลก มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร จำนวน 600 ไร่  ในอำเภอบางระกำ บริเวณ ต.บึงกอก โครงการชลประทานพิษณุโลก เข้าติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง เร่งสูบน้ำและผลักดันน้ำเข้าสู่แก้มลิงบึงตะเคร็ง  เพื่อลดปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบบริเวณริมแม่น้ำน้อย  2 อำเภอ ได้แก่ อ.เสนา บริเวณ ต.หัวเวียง  ต.บ้านกระทุ่ม และ อ.ผักไห่ บริเวณ ต.ท่าดินแดง แนวโน้มระดับน้ำลดลง  โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่  ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง 

ด้านสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเชียงไกร จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(บน-ล่าง)ได้รับผลกระทบ 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอด่านขุนทด และอำเภอโนนสูง  โครงการชลประทานนครราชสีมา ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดพร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำ (Rule Curve)  รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่

ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำท่าอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่เข้าประจำจุดเสี่ยงสามารถออกปฏิบัติการได้ทันที รวมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด ขอให้ประชาชนติดตามสถานกาณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิด