กรมชลประทานเร่งหาทางแก้ภัยแล้งเชียงใหม่หลังขาดแคลนน้ำอย่างหนัก

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า พื้นที่ท้ายน้ำแม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้งจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยเฉพาะอำเภอจอมทอง ฮอด และดอยเต่า ประกอบกับไม่มีประตูระบายน้ำที่ช่วยเก็บกักน้ำแม่น้ำปิงไปจนถึงประตูระบายน้ำแม่สอย อำเภอจอมทอง สำนักงานชลประทานเชียงใหม่จัดรอบส่งน้ำในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ต่อเนื่องถึงจังหวัดลำพูน 25 รอบเวร โดยงดการส่งน้ำให้พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกพืชที่ไม่อยู่ในแผนการเพาะปลูกที่กำหนดไว้ ขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้น้ำปฏิบัติตามมาตรการใช้น้ำชลประทานอย่างเคร่งครัด เพื่อสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝน อีกทั้งยังต้องสำรองน้ำหากเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงอีกด้วย นอกจากนี้ ได้จัดส่งรถบรรทุกน้ำนำน้ำสะอาดเข้าไปแจกจ่ายให้ประชาชนบ้านม่อนหิน ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง

สำหรับการผลิตน้ำประปาของจังหวัดเชียงใหม่ ทางสถานีผลิตน้ำอุโมงค์ใช้น้ำจากคลองชลประทานแม่แตงเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เริ่มได้รับผลกระทบจนต้องสูบน้ำจากแม่น้ำปิง ผ่านโรงสูบน้ำบ้านท่อเข้ามาเสริม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้น้ำของประชาชนทางด้านทิศตะวันตกไปจนถึงทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกันได้สำรองน้ำไว้ในแก้มลิง 7 แห่ง และอีก 3 อ่างเก็บน้ำทางทิศตะวันตกติดคลองชลประทานแม่แตงไว้กรณีน้ำเพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาในอนาคต

นายทองเปลว กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่มีน้ำเก็บกักประมาณ 61 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของความจุอ่างฯ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา-เขื่อนแม่กวงอุดมธาราร่วมหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำชลประทานเขื่อนแม่กวง (JMC) เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง ก่อนหน้านี้เกษตรกรที่อยู่ปลายคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย ตำบลมะเขือแจ้ ตำบลบ้านธิ อำเภอบ้านธิและตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ต้นลำไยบางส่วนใกล้ยืนต้นตายเนื่องจากขาดน้ำ กรมชลประทานจึงส่งน้ำรอบพิเศษให้แก่พื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มีจำกัด ประกอบกับระยะทางของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ไกลจึงจำเป็นจะต้องกำหนดแผนการบริหารจัดการน้ำให้รัดกุมขึ้น

โดยปรับเปลี่ยนการส่งน้ำในรอบเวรที่ 4 ช่วงเดือนเมษายน โดยให้เกษตรกรในจังหวัดลำพูนและบางพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่สูบน้ำไปเลี้ยงลำไยและพืชสวนต่าง ๆ พื้นที่กว่า 25,000 ไร่ ทั้งนี้การใช้น้ำในเขื่อนแม่กวงฯ มากกว่าแผนที่วางไว้ แต่จะยังคงเหลือปริมาณน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์ต่อไปได้อีก 2 เดือนซึ่งถึงต้นฤดูฝน

“เชียงใหม่ยังไม่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ชลประทานตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแม่น้ำปิงเพื่อให้น้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้สำหรับอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง พร้อมขอความร่วมมือจากเกษตรกรและประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอด 2 ฝั่งของแม่น้ำปิงให้ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด” นายทองเปลว กล่าว