- เป็นสินค้าเสพติดที่จูงใจให้เด็กและเยาวชน
- ทำให้เกิดโรค ปอดอักเสบรุนแรง
- ชีวิตคนไทยมีค่าเกินกว่าจะเอาไปเสี่ยง
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน จึงได้มอบหมายให้ กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค จับมือกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดนิทรรศการเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมผลักดันรณรงค์ในประเด็น “คนไทยไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า” เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าเสพติดที่จูงใจให้เด็กและเยาวชน ตกเป็นเหยื่อเข้าไปทดลองสูบบุหรี่จนเสพติดและเลิกไม่ได้ นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังทำให้เกิดโรค ปอดอักเสบรุนแรง รวมทั้งอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และการตรวจรักษาในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายภาวะการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโดยทั่วไป แต่เมื่อทำการรักษาแล้วกลับพบว่าอาการไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด และนำไปสู่ภาวะโรคปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งโรคดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการได้รับสารเคมีจากการสูบละอองไอของบุหรี่ไฟฟ้าเข้าไป
ทั้งนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องคงมาตรการห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้มแข็งต่อไป เนื่องจากเหตุผลสำคัญ 9 เหตุผล ดังนี้ 1.เป้าหมายของผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า คือ เด็กและเยาวชน 2.บุหรี่ไฟฟ้าเป็นต้นทางของการสูบบุหรี่ธรรมดาของเด็กและเยาวชน 3.บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตราย ทำลายสุขภาพ 4.นิโคติน ทำให้เสพติด อันตรายเกินคาด 5.บุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริง 6.บุหรี่ไฟฟ้าส่งผลเสียต่อสังคมมากกว่าผลดี 7.บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ไทยถอยหลังในการควบคุมยาสูบ 8.การห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า คือ มาตรการสำคัญในการปกป้องเด็กจากการตกเป็นเหยื่อ 9.ควรยึดนโยบาย “ปลอดภัยไว้ก่อน” เพราะชีวิตคนไทยมีค่าเกินกว่าจะเอาไปเสี่ยง
“ขอเน้นย้ำไปยังประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำลายสุขภาพ อย่าหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อ เพราะการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เกิดการเสพติดสารนิโคตินเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ทั่วไป ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค”