- เผยข้อมูลทั่วโลกที่รายงานผู้ติดเชื้อยืนยัน 550 ล้านคน แต่ไม่ใช่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจริง
- มีการคาดการณ์ ตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ 4-5 เท่า
- ชี้สถานการณ์โควิดตอนนี้ ความรุนแรงของโรคก็น้อยกว่าหลายโรคแล้ว
- แนะประชาชนควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608
- ย้ำสวมหน้ากากอนามัย ถือว่ายังมีประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่รวมคนหมู่มาก
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีมีผู้ระบุว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อจริงสูงกว่ารายงาน 10 เท่าว่า ข้อมูลทั่วโลกที่รายงานผู้ติดเชื้อยืนยัน 550 ล้านคน แต่ไม่ใช่ตัวเลขผู้ติดเชื้อจริง มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ 4-5 เท่า หรือบางคนบอกว่าเยอะกว่านี้ก็บอกว่า อาจจะมากกว่ารายงาน 7-8 เท่า ตอนนี้ติดเชื้อกี่คนไม่มีความจำเป็นต้องไปหา
“การประมาณการณ์ว่าติดเชื้อจริงมากกว่ากี่เท่าไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่เราสนใจคือสถานการณ์ควบคุมได้ไหมที่จะเข้าสู่หลังการระบาด Post-Pandemic หรือเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น การระบาดมากขึ้นหรือลดลง รวมถึงการดูจำนวนผู้เสียชีวิต และผู้ป่วยอาการหนักใส่ท่อช่วยหายใจ จะสะท้อนผู้ติดเชื้อในภาพรวม และระบบสาธารณสุขว่ารองรับได้หรือไม่” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราป่วยตาย โควิดอยู่ที่ 0.07% ใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ อัตราตายอยู่ที่ 0.1% แต่คิดว่าโควิดอัตราการตายน่าจะต่ำกว่านี้ เพราะผู้ติดเชื้อไม่มีอาการก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้ ถ้าดูสถานการณ์ตอนนี้ความรุนแรงของโรคก็น้อยกว่าหลายโรคแล้ว แม้แนวโน้มการติดเชื้อทั่วโลกกำลังเพิ่มขึ้นแต่ไม่เร็วมากนักเหมือนกับช่วงสายพันธุ์เดลตา หรือโอมิครอนใหม่ๆ เพราะสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปก็มีการผ่อนคลายมาตรการ ไม่ได้ใส่หน้ากาก แต่ในคนไทยเรายังใส่อยู่ เมื่ออยู่ในที่ชุมชนคนจำนวนมาก
รวมถึงไทยเรายังรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ซึ่ง 2 มาตรการนี้จะเป็นเรื่องสำคัญในการควบคุมสถานการณ์หลังผ่านระยะ Post-Pandemic
นพ.โอภาส กล่าวว่า กรณีที่มีการตื่นตระหนกเมื่อมีการรายงานพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ต่างๆ นั้น ขณะนี้กำลังพิจารณาจุดสมดุลของฐานต่ำสุดเทียบกับช่วงการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ซึ่งมีผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 300-400 รายต่อวันปอดอักเสบ 800-900 รายต่อวัน เสียชีวิต 20-30 ราย ต่อวัน หากตัวเลขอยู่ระดับนี้ แลกกับการที่เราสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ คิดว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะพอยอมรับได้ แต่ทางสาธารณสุขพยายามดูแลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ สำหรับคำแนะนำประชาชนในการปฏิบัติตัวหลังพ้นการระบาดใหญ่ (Post-Pandemic) คือ 1.การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 เนื่องจากในจำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน ส่วนใหญ่ยังเป็นคนกลุ่มนี้ คนทั่วไปยังแนะนำทุก 4 เดือน ยกเว้นว่าจะมีการศึกษาและมีคำแนะนำออกมาเพิ่มเติม
“ส่วนที่คนกังวลว่า วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ได้นั้น วัคซีนทุกตัวแม้ว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลง แต่ประสิทธิภาพในการลดการป่วยหนัก ลดการเสียชีวิตนั้นไม่ได้ลดลงจึงขอเชิญชวนให้ไปฉีด”
2.การสวมหน้ากากอนามัย ถือว่ายังมีประโยชน์โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่รวมกับคนหมู่มาก
