กรมการค้าภายในสั่งห้ามขึ้นราคาขายสินค้า

  • ร่อนหนังสือถึงห้าง-ร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ
  • หวังไม่ให้ฉวยซ้ำเติมประชาชนช่วงโควิด-19ระบาด
  • ฝ่าฝืนลงโทษหนักคุก7ปีปรับ1.4แสนบาท

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน  กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 63 ได้ทำหนังสือไปยังห้างค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า รวมถึงร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศห้ามขึ้นราคาขายสินค้าซ้ำเติมความเดือดร้อนผู้บริโภคในช่วงนี้ ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับ ช่วงนี้ราคาวัตถุดิบ และราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสำคัญอยู่ในระดับที่ต่ำ หากผู้ประกอบการฝ่าฝืนหรือแอบฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ตอนนี้สถานการณ์สินค้าไทยไม่ได้มาจากต้นทุนที่สูง แต่มาจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น เพราะประชาชนชื้อมาเก็บไว้ในบ้าน ส่วนสาเหตุที่ทำหนังสือถึงห้าง ร้านค้า เพราะเป็นผู้จำหน่ายปลายทาง และเมื่อเช็คดูต้นทางแล้วต้นทุนไม่ได้เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่าปลายทางจะจัดการได้เพื่อไม่ให้สินค้าปรับราคาขึ้น”

ส่วนกรณีไข่ไก่นั้น ปัจจุบันราคาหน้าฟาร์มสำหรับเบอร์ 3 ซึ่งเป็นขนาดที่ประชาชนบริโภคกันมากเฉลี่ยที่ 2.80 บาทต่อฟอง ดังนั้นราคาขายปลีกไม่ควรเกิน 3.40-3.50 บาทต่อฟอง หากเป็นไข่ไก่ขนาดอื่นบวกลบขนาดละ 20 สตางค์ (สต.) ต่อฟอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายลง โดยมีปริมาณไข่ไก่บนขั้นวางเพิ่มขึ้น เพราะห้างหลายแห่งได้กำหนดปริมาณการขายไม่เกิน 2-3 แผงต่อ 1 ใบเสร็จ เพื่อที่จะให้ผู้บริโภคสามารถชื้อได้อย่างทั่วถึง โดยสาเหตุที่ปริมาณไข่ไก่ในหลายพื้นที่ได้คลี่คลายมาจากนโยบายห้ามส่งออก 7 วัน และการดำเนินคดีกับผู้ที่ขายแพงตั้งแต่ฟาร์มไข่ไก่ พ่อค้าคนกลาง และแม่ค้า อย่างจริงจัง