กมธ.สาธารณสุข ชี้งบ สปสช. ส่วนของการส่งเสริมสุขภาพ ส่อผิดกฎหมาย หยุดบีบ! “อนุทิน” ให้รีบเซ็นใช้งบ ปี 66

  • แนะสำนักงบฯ ต้องทำให้ถูกต้องก่อน
  • การเสนอเรื่องให้ ครม. แก้ไขถ้อยคำ และ ออกพระราชกฤษฎีกา

น.พ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย กรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้เชิญทางสำนักงบประมาณ และ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้าร่วมในการพิจารณา การใช้งบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยให้สิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ และผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม โดยที่ไม่ได้มีการดำเนินการตามข้อกฎหมาย และอาจจะมีประเด็นข้อทุจริตด้วย เพราะไม่มีการดำเนินการตรวจสุขภาพจริง เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องมาจากปีที่ 2564 กรณีคลินิกอบอุ่น หลายแห่ง ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ได้ชี้มูลแล้ว

นายแพทย์เอกภพ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามกดดันให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐนตรี และรมว.สาธารณสุข ลงนามอนุมัติงบประมาณปี 2565 ก้อนนี้ โดยให้รวบไปกับก้อนใหญ่ทั้งก้อนของ สปสช. ทั้งที่ยังมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย และทางปฏิบัติที่นำคนซึ่งไม่ได้อยู่ในระบบบัตรทองมาใช้สิทธิเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่ข้อกฎหมายระบุชัดเจนว่าทำไม่ได้  นอกจากไปแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องก่อน

กรรมาธิการสาธารณสุข กล่าวว่า ในระยะเร่งด่วน ให้หน่วยงานส่งเรื่องกลับให้ ครม. อนุมัติเรื่องใหม่ เพื่อให้เกิดความถูกต้องเหมือนในปี 2565  มติคณะรัฐมนตรีชัดเจนว่าเห็นชอบ อนุมัติ และมีการมอบให้คณะกรรมการดำเนินการ แต่ในปีงบประมาณ 66 มติคณะรัฐมนตรีมีเพียงเห็นชอบ อนุมัติ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ  โดยไม่ได้มีมติให้มอบคณะกรรมการดำเนินการ แล้วไปใช้วิธีการให้ กรรมการ สปสช. ยกมือโหวตให้ชนะนั้น จะให้ประธานคณะกรรมการ ลงนาม ไม่น่าจะถูกต้อง จึงควรให้สำนักงบประมาณ ส่งเรื่องกลับไป ครม. เพื่อแก้ไขข้อความให้ถูกต้องเสียก่อน 

ส่วนในระยะยาว ในข้อกฎหมายเดิม พ.ศ.2545 ใน มาตรา 9 และ10 เขียนชัดว่าให้ สปสช. คุยกับข้าราชการและประกันสังคม ให้เรียบร้อยใน 1 ปี และถ้าทำไม่ได้ต้องเสนอ ครม.ปีละ 1 ครั้ง แต่ไม่เคยแจ้งมาก่อนเลย ดังนั้นต้องคุยรายละเอียด กับกรมบัญชีกลาง เพื่อยกร่างพระราชกฤษฎีกา ในการโอนเฉพาะสิทธิ เฉพาะงานส่งเสริมสุขภาพ เพื่อแก้ไขกฎหมายก็สามารถทำได้ 

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข มีมติว่า จะทำหนังสือส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว ต่อไป