กพท.ออกประกาศ!ให้อากาศยานบินเข้า-ออกประเทศไทยตั้งแต่ 1 ก.ค.63 แบบมีเงื่อนไขใครเดิน ทางได้เช็คด่วน!

กพท.ออกประกาศ 3 เงื่อนไขอนุญาตให้อากาศยานบินเข้า-ออกนอกราชอาณาจักร หลังไวรัสโควิด-19 ยังมีความรุนแรงในต่างประเทศ ย้ำต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่กำหนด มีผล 1 ก.ค.63

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กทพ.)เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2563 เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย แจ้งว่าปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ยังคงมีความรุนแรงในต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องกาหนดมาตรการจำกัดการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 00.01 น.

ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถในการ จัดการคัดกรองของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรการป้องกันโรค และเพื่อการ ควบคุมและป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 ผู้อำนวยการสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศกาหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ อากาศยานบินผ่าน บินเข้าหรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในราชอาณาจักร

สำหรับข้อปฏิบัติมี ดังต่อไปนี้ ข้อ 1.อากาศยานดังต่อไปนี้สามารถทาการบินผ่าน บินเข้าออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลง ในท่าอากาศยานที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจากสานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
(1) อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military aircraft)
(2) อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
(3) อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจาก
เครื่อง
(4) อากาศยานที่ทาการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทาการบินทาง การแพทย์ หรือการขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด –19 (Humanitarian aid, medical and relief flights)
(5) อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทาการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับ ภูมิลาเนา (Repatriation)
(6) อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo aircraft)

ข้อ 2อากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทาการบินผ่าน บินเข้าออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้น ลงในท่าอากาศยานในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตการบินจากสานักงาน การบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเฉพาะเมื่อผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นเป็นบุคคล ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) ผู้มีสัญชาติไทย
(2) ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินกาหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจาเป็น โดยอาจกาหนด เงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
(3) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
(4) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรหรือได้รับอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร

(5) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทางานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
(6) ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
(7) ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามา ตามภารกิจและมีกาหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
(8) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทย ที่ ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว

(9) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด –19
(10) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
(11) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลง พิเศษ (special arrangement) กับต่างประเทศ

ข้อ 3 อากาศยาน และผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 2จะต้องปฏิบัติ ตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอานาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลบังคับใช้ อยู่ เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับ ความสำมารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้กักกัน (quarantine)