กบง. เห็นชอบตามมติครม.ก่อนหน้านี้เรื่องการลดค่าไฟฟ้า

  • ช่วงรอบบิล ระหว่างเดือนพ.ค. – มิ.ย.นี้
  • เพื่อบรรเทาผลกระทบโควิด-19
  • ให้ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าจากการระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในระลอก3 ให้ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กทั่วประเทศ ให้ได้รับการช่วยเหลือตามหลักการเดียวกันกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา และได้ได้พิจารณาประเด็นสำคัญ เพิ่มเติมดังนี้ โดยอนุมัติหลักการดังกล่าว ให้ครอบคลุมลูกค้ารายย่อยของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ. )และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือเพิ่มเติม เป็น2 เดือน (พ.ค. –มิ.ย.)คิดเป็น วงเงิน15.04 ล้านบาท ซึ่งส่วนลดดังกล่าวจะทำให้เงินเรียกคืนฐานะการเงินจาก3 การไฟฟ้าซึ่งมีรายได้มากกว่าที่ควรได้รับในปี นี้มีจำนวนลดลง

*ขณะเดียวกันกบง.ได้รับทราบมติครม.เรื่อง มาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานไฟฟ้าสำหรับประชาชน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าของ การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค( กฟภ.) เป็นเวลา 2 เดือน (พ.ค.– มิ.ย.) ในวงเงิน 8,755 ล้านบาท อีกทั้งยังรับทราบแนวทางของ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ. )ในการยกเว้นการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าขั้นต่ำ (Minimum Charge) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3-7 โดยให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายค่าไฟฟ้าตามจริงระหว่างเดือนพ.ค.-มิ.ย. นี้ โดยให้ กกพ. รับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ กบง. ยังได้ รับทราบ แนวทางการบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ของประเทศ ตามข้อเสนอของ คณะทำงานบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศ และได้มอบให้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ,กกพ. และ กฟผ. ร่วมกันทบทวนสมมติฐานการกำหนดค่ากำลังผลิตพึ่งได้ (Dependable Capacity) ของโรงไฟฟ้าของ กฟผ. และ ให้พิจารณาจากโอกาสเกิดไฟฟ้าดับ ที่เหมาะสมในภาพรวมทั้งประเทศและแยกตามรายพื้นที่ และ กกพ. ไปออกแบบสัญญาในการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน ให้เหมาะสมกับโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทและการรับซื้อไฟฟ้าจริงของระบบ เป็นต้น

”ที่ประชุมกบง.ยังมอบให้ สนพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ฉบับใหม่ โดยให้คำนึงถึงการวางแผนจัดหาโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้ารายภูมิภาค การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าในช่วงความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ให้กระจายออกไปในช่วงอื่น ๆ ของวัน เพื่อลดการจัดหา/สร้างโรงไฟฟ้า การวางแผนและดำเนินการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับพลังงานทดแทนที่จะเข้ามาในระบบไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต“

นอกจากนี้ กบง. ยังได้มีมติเห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงเครื่องจักรอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง และวัสดุอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 5 ฉบับ (5 ผลิตภัณฑ์) ได้แก่ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดปั๊มความร้อนแบบดึงความร้อนจากอากาศถ่ายเทให้แก่น้ำที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …. 2.ร่างกฎกระทรวงกำหนดฟิล์มติดกระจกเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. …. 3.ร่างกฎกระทรวงกำหนดฉนวนอุตสาหกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. …. 4.ร่างกฎกระทรวงกำหนดเตารังสีอินฟราเรดที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …. และ 5.ร่างกฎกระทรวงกำหนดพัดลมอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง พ.ศ. …. โดยร่างกฎกระทรวงฯ ข้างต้น จะเป็นมาตรฐานอ้างอิงสำหรับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ จะมีสิทธิได้รับการส่งเสริมมาตรการการติดฉลากประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง ซึ่งจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป